อาจารย์ทำเสียชื่ออีกแล้ว
1. ตั้งตัวสอนศาล ให้คำนึงถึงหลักการว่าผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้บริสุทธิ์ เรียกร้องให้ปล่อยผู้ต้องขังตามมาตรา 112 เขียนข้อความเฉียดฉิวติงศาลด้วยลีลาพลิ้วสะบัด และตำหนิประหนึ่งว่าประเทศไทยไม่มีหลักกฎหมายที่ถือว่าผู้ต้องหาเป็นผู้บริสุทธิ์
2. กฎหมายอาญาของไทยใช้มาตั้งแต่ 2499 ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าศาลจะพิพากษาว่าเป็นผู้กระทำความผิด หลักกฎหมายไทยไม่ได้ล้าสมัยหรือป่าเถื่อนแต่ประการใด และไม่เคยมีใครตำหนิติเตียนแบบนี้
3. หลักการสันนิษฐานว่า ผู้ต้องหาหรือจำเลยบริสุทธิ์นั้นเป็นคนละเรื่องกับหลักเกณฑ์ในการพิจารณาให้ประกันตัวในระหว่างคดี ซึ่งเป็นหลักกฎหมายที่ใช้ทั่วไปเหมือนกันทั้งโลก ในกรณีมีเหตุที่ต้องขังในระหว่างการพิจารณา ศาลจำเป็นต้องออกหมายขัง และศาลก็ได้ปฏิบัติอย่างนี้มาตั้งแต่ปี 2499 จนถึงทุกวันนี้ ไม่ได้เลือกปฏิบัติกับใครทั้งนั้น แม้ผู้ทำความผิดตามข้อกล่าวหามาตรา 112 ศาลก็ปฏิบัติอย่างเดียวกัน
4. ขณะนี้มีผู้ต้องหาหรือจำเลยที่มีเหตุที่ศาลจะต้องขังไว้ในระหว่างพิจารณาตามกฎหมายนับหมื่น ๆ คน แต่อาจารย์พวกนี้กลับเรียกร้องให้ปล่อยตัวเฉพาะผู้ต้องหามาตรา 112 ซึ่งเป็นการเลือกปฏิบัติอย่างชัดเจน มิได้คำนึงถึงความเสมอภาคของบรรดาผู้ต้องหาทั้งหลาย นั่นก็คือยกอภิสิทธิ์ให้ผู้ต้องหามาตรา 112
เหตุนี้บางท่านจึงไม่อาจเรียกอาจารย์ได้ แต่ไม่รู้ว่าจะเรียกอย่างไรดีระหว่างอาเจียนกับอาจม ก็ขอท่านสาธุชนได้พิจารณาเรียกกันเอาเอง
Cr. facebook : Paisal Puechmongkol