รมต.อนุชา เชื่อมั่นกองทุนหมู่บ้านช่วยส่งเสริมและขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง แนะสมาชิกกองทุนปรับตัว ดันการค้าออนไลน์หนทางสร้างรายได้ยุคดิจิทัล
วันที่ 12 มิถุนายน 2565 เวลา 09.30 น. ณ หอประชุมโรงเรียนชัยนาทพิทยาคม อําเภอเมือง จังหวัดชัยนาท : นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการจัดกิจกรรมส่งเสริมและสร้างโอกาสในการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชน ซึ่งจัดโดยสํานักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ โดยมีนายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท, นายนิพันธ์ ศิริธร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง, นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อํานวยการสํานักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ, นายธัชชญาณ์ณัช เจียรธนัทกานนท์ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, หัวหน้าสาขากองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และสมาชิกกองทุนหมู่บ้านเมือง เข้าร่วม
กิจกรรมดังกล่าวมีกำหนดจัดในหลายพื้นที่ทุกภูมิภาคของประเทศไทย โดยในพื้นที่ภาคกลางถือเป็นพื้นที่แรกที่มีการจัดกิจกรรม มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและเปิดโอกาสให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองได้มีช่องทางในการเผยแพร่ผลงาน และสนับสนุนการสร้างโครงข่ายแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และถ่ายทอดบทเรียนผ่านสื่อต่างๆ อย่างสร้างสรรค์ (KNOW HOW) เพื่อต่อยอดการบริหารจัดการหมู่บ้านและชุมชน และแลกเปลี่ยนเรียนรู้การเผยแพร่บทเรียนจากโครงการและการสร้างแนวทางความร่วมมือระหว่างกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และภาคีที่เกี่ยวข้อง ในการพัฒนาต่อยอดโครงการให้เกิดความเข้มแข็ง
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ดําเนินการขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ผ่านกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง โดยจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดตั้งกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง กองทุนละ 1 ล้านบาท และสนับสนุนงบประมาณเพื่อการเพิ่มทุนให้กับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตามศักยภาพและความเข้มแข็ง ปัจจุบันมีกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองทั่วประเทศ จํานวน 79,610 กองทุน เงินทุนหมุนเวียนกว่า 3 แสนล้านบาท จํานวนสมาชิกประมาณ 13 ล้านคน โดยมีผลงานซึ่งเป็นรูปธรรม อาทิ ร้านค้าประชารัฐ, ตลาดประชารัฐ, สินค้า จากผลิตผลและผลิตภัณฑ์ของกองทุนหมู่บ้าน, โรงน้ำดื่มชุมชน, แหล่งท่องเที่ยวชุมชน, สถาบันการเรียนรู้, สถาบันการเงินชุมชน ซึ่งทําให้เศรษฐกิจฐานรากของประเทศมั่นคง ยิ่งขึ้น
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติได้มุ่งสนับสนุนและส่งเสริมการดำเนินงานเพื่อพัฒนาศักยภาพของชุมชนและเศรษฐกิจฐานรากมาโดยตลอด ภายหลังจากที่ประเทศเผชิญวิกฤติสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศทุกระดับ รวมถึงเศรษฐกิจฐานรากที่เป็นแหล่งเงินของชุมชน รัฐบาลจึงได้เร่งดำเนินโครงการเพื่อช่วยเหลือประชาชนในชุมชน โดยให้การสนับสนุนและส่งเสริม การประกอบกิจการชุมชนผ่านกองทุนหมู่บ้านทุกรูปแบบ เพื่อให้คนในชุมชนมีอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน และให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ด้วยความสามัคคี ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติที่ได้ตั้งไว้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังได้ฝากไปยังสมาชิกกองทุนฯ ให้มีการปรับตัวให้ทันยุคดิจิทัล นำรูปแบบการค้าผ่านช่องทางออนไลน์มาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างโอกาสในการขยายตลาดวงกว้างทั้งในระดับประเทศและระดับโลก โดยตนมองว่าจะเป็นอีกหนึ่งหนทางที่สร้างรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน
โอกาสนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มอบรางวัลกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตัวอย่าง รางวัลโครงการตามแนวทางประชารัฐตัวอย่าง และรางวัลเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตัวอย่าง ให้แก่กองทุนที่ผ่านการพิจารณาโดยคณะกรรมการ และเยี่ยมนิทรรรศการเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ของกองทุนหมู่บ้านและ ชุมชนเมือง ตลอดจนการจําหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ก่อนเดินทางกลับ
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน