ข่าวประชาสัมพันธ์

โฮมโปร ชวน “รักษ์โลก แลกแต้ม เปลี่ยนแสงแดดเป็นคะแนน Home Card” ด้วยการติด Home Solar “ประหยัดไฟ-ประหยัดเงิน-รับแต้มลดโลกร้อน”


18 มีนาคม 2025, 18:45 น.

 

วันอังคารที่ 18 มีนาคม 2568 เวลา 14.00 น. ณ ศูนย์ฝึกอบรมบุคลากร บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ สาขาเอกมัย-รามอินทรา มูลนิธิพลังงานสะอาดเพื่อประชาชน ร่วมกับโฮมโปร และสถาบันวิจัยพหุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เดินหน้าภารกิจ Net Zero Emissions เซ็น MOU โครงการ “วิจัยและพัฒนาตลาดคาร์บอนครัวเรือนภาคสมัครใจ” ผลักดันให้ผู้บริโภคใช้พลังงานสะอาด ผ่านการติดตั้งโซลาร์เซลล์พร้อมเปลี่ยนคาร์บอนเครดิตเป็นคะแนนโฮมการ์ด แลกรับสินค้า, บริการ และสิทธิประโยชน์มากมายที่โฮมโปร ตั้งเป้ามีผู้เข้าร่วมโครงการฯ กว่า 300 ครัวเรือน แจกคะแนนโฮมการ์ดกว่า 3 ล้านแต้ม และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 1 ตันคาร์บอน

 

 

ซึ่งได้รับเกียรติจาก ดร.สุวิทย์ ธรณินทร์พานิช ประธานกรรมการ มูลนิธิพลังงานสะอาดเพื่อประชาชน, นายนิทัศน์ อรุณทิพย์ไพฑูรย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มทรัพยากรบุคคล และธุรกิจพลังงานบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จากัด (มหาชน), รศ.วงกต วงศ์อภัย ผู้แทนสถาบันวิจัยพหุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นผู้ลงนามบันทึกข้อตกลง MOU ในครั้งนี้ โดยมี นายนที สิทธิประศาสน์ รองประธานกรรมการมูลนิธิพลังงานสะอาดเพื่อประชาชน เป็นผู้กล่าวเปิดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) พร้อมด้วย นายอาทิตย์ เวชกิจ รองประธานกรรมการมูลนิธิพลังงานสะอาดเพื่อประชาชน, นายพรอรัญ สุวรรณพลาย กรรมการมูลนิธิพลังงานสะอาดเพื่อประชาชน, คุณอัครเดช สุพิชญางกูร ที่ปรึกษาประธานกรรมการมูลนิธิพลังงานสะอาดเพื่อประชาชน, คุณนาตยา สีทับทิม ที่ปรึกษามูลนิธิพลังงานสะอาดเพื่อประชาชน, คุณไตรวินิจ ตู้จินดา กรรมการสมาคมพลังงานหมุนเวียนไทย (อาร์อี100) และคุณสรัญญา สุขสวัสดิ์ ผู้จัดการมูลนิธิพลังงานสะอาดเพื่อประชาชน ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนาม MOU ครั้งนี้อีกด้วย

 

ดร.สุวิทย์ ธรณินทร์พานิช ประธานกรรมการ มูลนิธิพลังงานสะอาดเพื่อประชาชน เสริมว่า การจัดทำโครงการ “วิจัยและพัฒนาตลาดคาร์บอนครัวเรือนภาคสมัครใจ” จะใช้แพลตฟอร์มกลางในการติดตามว่าครัวเรือนที่มีการติดตั้งโซลาร์เซลล์ มีการผลิตพลังงานสะอาด หรือลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณเท่าไร โดยแพลตฟอร์ม นี้จะยังช่วยคำนวณการแลกเปลี่ยนปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้เป็นคะแนน เพื่อนำไปแลกกับสินค้าหรือบริการของภาคธุรกิจอย่าง “โฮมโปร” ซึ่งเราคาดว่าโครงการฯ จะสามารถสร้างประโยชน์ครอบคลุมถึง 3 ด้าน คือ การสร้างรายได้ให้ภาคครัวเรือน, การทำธุรกิจตามแนวเศรษกิจหมุนเวียนของภาคธุรกิจ และสามารถสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับประเทศไทย

 

 

 

ด้าน นายนิทัศน์ อรุณทิพย์ไพฑูรย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มทรัพยากรบุคคล และธุรกิจพลังงานบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” เปิดเผยว่า ปัจจุบันความต้องการคาร์บอนเครดิตในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในอนาคตมีแนวโน้มสูงขึ้นอีก สะท้อนถึงกระแสตื่นตัวของประชาชนและภาคธุรกิจ ที่ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change หลายองค์กรมีเป้าหมายสำคัญ ร่วมกัน เพื่อมุ่งสู่ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อขับเคลื่อนสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ตามแนวทางภารกิจ Net Zero Emissions ให้สำเร็จในอนาคต

 

“โฮมโปร ไม่เพียงเป็นผู้ให้บริการติดตั้งโซลาร์เซลล์ แต่ยังเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาดการชดเชยคาร์บอน รวมถึงระบบนิเวศธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โฮมโปรดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ต้นทางการผลิตไปจนถึงปลายทางของการจัดการอย่างถูกวิธี เป้าหมายของเราจึงไม่ได้มีแค่การปรับเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดภายในองค์กร แต่ยังรวมถึงการส่งเสริมให้ผู้บริโภคทั่วประเทศได้มีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกัน”

 

ในเดือนมีนาคม 2568 นี้ “โฮมโปร” ได้ประกาศความร่วมมือกับ “มูลนิธิพลังงานสะอาดเพื่อประชาชน” “สถาบันวิจัยพหุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่” ภายใต้งบประมาณสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ผ่านการลงนามบันทึกข้อตกลงความ ร่วมมือ (MOU) “โครงการวิจัยและพัฒนาตลาดคาร์บอนครัวเรือนภาคสมัครใจ” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคธุรกิจ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนใช้พลังงานสะอาด โดยใช้แพลตฟอร์มตลาดคาร์บอนครัวเรือนภาคสมัครใจ เพื่อติดตามข้อมูลการผลิตพลังงานจากโซลาร์เซลล์ พร้อมวัดผลปริมาณการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ของแต่ละครัวเรื่อนอย่างเป็นรูปธรรม

 

ซึ่งโครงการฯ นี้ ช่วยให้โฮมโปรเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของภาคธุรกิจ ส่งเสริมให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดโลกร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมช่วยลดค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพได้ในระยะยาวโดยครัวเรือนที่เข้าร่วมโครงการฯ สามารถนำ Carbon Credit 1 ตันคาร์บอน หรือเทียบเท่ากับการใช้พลังงานจากโซลาร์เซลล์ 2,059 หน่วย (Khw) มาแลกเป็นคะแนนโฮมการ์ด 1,900 คะแนน เพื่อใช้คะแนนเป็น ส่วนลดสำหรับสินค้าและบริการ รวมถึงแลกสิทธิพิเศษต่างๆ ได้ที่โฮมโปร และเมกาโฮม ทั่วประเทศ

 

“โครงการนี้ ไม่ได้เป็นเพียงก้าวสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการลดโลกร้อน ผ่านการใช้พลังงานสะอาดและการบริหารจัดการคาร์บอนเครดิตอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนอกจากจะสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ยังช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่อนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น” นายนิทัศน์ กล่าว

 

 

ด้าน รศ.วงกต วงศ์อภัย ผู้แทนสถาบันวิจัยพหุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า การจัดทำโครงการฯ ในครั้งนี้ สิ่งสำคัญของกระบวนการทั้งหมด ไม่ใช่เพียงการได้คาร์บอนเครดิตกลับมา แต่ยังเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความรับผิดชอบของภาคส่วนต่าง ๆ ที่มาเข้าร่วมกับโครงการฯ เพื่อช่วยกันลดผลกระทบจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นประเด็นสำคัญในระดับโลก อีกทั้งการแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิตกับคะแนนที่ใช้แลกสินค้าหรือบริการจาก “โฮมโปร” ยังสามารถช่วยจูงใจให้ประชาชนหันมาให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาดมากขึ้น ช่วยสร้างประโยชน์ทั้งในเชิงเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน พร้อมเป็น ส่วนสำคัญที่นำไปสู่เป้าหมายเป็นกลางทางคาร์บอน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ได้ดียิ่งขึ้นในอนาคต

 

ในปีที่ผ่านมา โฮมโปร เป็นหนึ่งในองค์กรธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในการเดินหน้าแผนงานลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคครัวเรือน โดยในปี 2023-2024 มีผู้บริโภคใช้บริการติดตั้ง Home Solar by HomePro รวมทั้งหมด 324ครัวเรือน เทียบเท่ากับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 1,200 ตันต่อปี ในระยะเวลา 2 ปี ช่วยลดการปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงกว่า 2,400 ตันคาร์บอน หรือเทียบเท่ากับปลูกต้นไม้ 240,000 ต้น

 

ด้าน รองศาสตราจารย์ ดร.ปฐมทัศน์ จิระเดชะ ประธานอนุกรรมการแผนงานกลุ่มด้านระบบคมนาคมโลจิสติกส์ พลังงาน เคมี และวัสดุชีวภาพ และเศรษฐกิจหมุนเวียน บพข. กล่าวว่า “บพข. เป็นหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนทุนวิจัยงานต่างๆ โดยมีเป้าหมายหลักคือการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันโครงการวิจัยต่างๆ ภายในประเทศ สำหรับโครงการนี้เป็นเรื่องของการพัฒนาแพลตฟอร์มคาร์บอนเครดิต สำหรับการติด Home Solar ในครัวเรือน เนื่องจากครัวเรือนมีขนาดที่ค่อนข้างเล็ก การมาทำเรื่องคาร์บอนเครดิตอาจไม่คุ้ม ดังนั้นโครงการนี้จึงถือเป็นโอกาสอันดีที่ มูลนิธิพลังงานสะอาดเพื่อประชาชน, สถาบันวิจัยพหุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และโฮมโปร ได้ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ในครั้งนี้ ซึ่งนอกจากจะเป็นการทำ BCG Economy แล้ว ยังช่วยลดการใช้จ่ายพลังงาน และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อีกด้วย ทำให้เกิดการใช้พลังงานสะอาดในประเทศไทย รวมไปถึงเรื่อง Carbon Neutrality และ Net Zero Emissions ซึ่งถือเป็นเป้าหมายในอนาคต ในนามของ บพข. ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมในการผลักดันโครงการดีๆ เช่นนี้ให้แก่สังคมและประเทศ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า บพข. จะเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างพลังงานสะอาดและความเข้มแข็งในเรื่องของเศรษฐกิจ BCG ให้แก่ประเทศไทยต่อไป“

 

สำหรับในปี 2025 นี้ โฮมโปรคาดหวังว่า ว่าการร่วมมือกับโครงการวิจัยและพัฒนาตลาดคาร์บอนครัวเรือนภาคสมัครใจ จะมีการแจกคะแนนโฮมการ์ดรวมกว่า 3 ล้านคะแนน และมีเป้าหมายครัวเรือนร่วมโครงการไม่ต่ำกว่า 300 ครัวเรือน สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงไม่ต่ำกว่า 1,200 ตันคาร์บอนหรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 120,000 ต้น

 

 

ข่าวในหมวดเดียวกัน

เพิ่มเติม...

การเมือง

คอลัมนิสต์

คมในความ

มหาราษฎร์ Shorts

ภาพเก่าเล่าอดีต

ไฮไลท์

ข่าวประชาสัมพันธ์

ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

ท่องเที่ยว

ศาสนา

สุขภาพ

แวดวงนักรบ

สังคม

บทบาทบุคคล

< กลับหมวดข่าวประชาสัมพันธ์

เรื่องล่าสุด