เผยมติ ป.ป.ช. ตั้งองค์คณะใหญ่ไต่สวน “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผบ.ตร.-พวก 46 ราย ปมจัดซื้อรถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์อัจฉริยะ 260 คัน 900 ล้าน ปี 60-61 หลัง ‘ษิทรา เบี้ยบังเกิด’ ยื่นให้ตรวจสอบเป็นคดีที่สองต่อจากซื้อเครื่อง ไบโอแมทริกซ์ สตม. 2.1 พันล.
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 31 พ.ค.2565 ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเห็นชอบตามที่คณะอนุกรรมการกลั่นกรองเรื่องกล่าวหาประจำสำนักไต่สวนการทุจริตภาครรัฐ 1 เสนอให้มีการตั้งแต่งองค์คณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่ ไต่สวน พล.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กับพวก 46 ราย กรณีกล่าวหาการดำเนินงานโครงการรถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์อัจฉริยะ (SMART PATROL CAR : SPC) จำนวน 260 คัน วงเงินงบประมาณ 900 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2560และ2561 โดยหน่วยงานระดับกองบังคับการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเป็นผู้ดำเนินการจัดหา มี นางสาวสุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้รับผิดชอบ ขั้นตอนจากนี้จะมีการแจ้งข้อกล่าวหา ให้ พล.อ.จักรทิพย์ และผู้ถูกกล่าวหาอีก 46 ราย รับทราบข้อกล่าวหา และเปิดโอกาสให้ใช้สิทธิชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อไป
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า สำหรับโครงการรถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์อัจฉริยะ (SMART PATROL CAR : SPC) จำนวน 260 คัน ดังกล่าว เคยปรากฏเป็นข่าวในช่วงเดือน ม.ค.2563 ว่าเป็นโครงการที่สอง ต่อจาก โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจพิสูจน์บุคคลโดยเทคโนโลยี Biometrics (ลายพิมพ์นิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า) ระยะที่ 1 วงเงิน 2.1 พันล้าน ที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ออกมารับลูก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ ‘บิ๊กโจ๊ก’ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ สำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน กรณีถูกคนร้ายลอบยิงรถยนต์ เมื่อคืนวันที่ 7 ม.ค. 2562 ที่ผ่านมา โดยเชื่อว่าเกิดจากสมัยตนดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการสำนักตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) และสั่งการให้มีการตรวจสอบโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจพิสูจน์บุคคลแบบลายพิมพ์นิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า (ไบโอเมตริกซ์) พร้อมกับมีหนังสือถึง ผู้บังคับบัญชาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ขอให้ยกเลิกโครงการนี้ เนื่องจากเกิดความล่าช้าและส่งงานไม่ทัน ยื่นเรื่องให้สำนักงาน ป.ป.ช.ตรวจสอบ
โดยนายษิทรา กล่าวอ้างว่า เมื่อปี พ.ศ. 2560 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีโครงการจัดซื้อรถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์อัจฉริยะ พร้อมติดตั้งระบบเทคโนโลยีต่าง ๆ จำนวน 260 คัน วงเงินงบประมาณ 900 ล้านบาท ซึ่งรถยนต์ดังกล่าวจะวิ่งได้ระยะทาง 200 กิโลเมตรต่อการชาร์จประจุไฟฟ้า 1 ครั้ง และใช้เวลาในการชาร์จประจุไฟฟ้า 1 ครั้ง ประมาณ 6 ชั่วโมง แต่ในข้อเท็จจริงปัจจุบันสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังไม่มีสถานที่ไว้สำหรับชาร์จประจุไฟฟ้าของรถยนต์ ส่อให้เห็นว่าการดำเนินงานโครงการนี้ ส่อว่าจะมีปัญหาในขั้นตอนปฏิบัติงาน
ขณะที่ พล.ต.ท. ติณภัทร ภุมรินทร์ อดีตผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศราว่า การดำเนินงานโครงการจัดซื้อรถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์อัจฉริยะ ไม่มีปัญหาอะไร และขั้นตอนการตรวจรับส่งมอบงานก็ผ่านการรับรองจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แล้ว
อย่างไรก็ดี การตรวจสอบของ ป.ป.ช. อยู่ในชั้นไต่สวนเท่านั้น ยังไม่ได้มีการชี้มูลความผิดเป็นทางการ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร.และ พวก 46 ราย จึงถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
ข้อมูล : สำนักข่าวอิศรา
https://www.isranews.org/article/isranews/109225-inves019-4.html