ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน ฝุ่นละอองขนาดเล็กนี้สามารถเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจและกระแสเลือดได้ ทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจ และอาจส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ดังนั้น การป้องกันตัวเองจากฝุ่น PM2.5 จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขจึงได้แนะนำ 5 สิ่งที่ควรทำ และ 5 สิ่งที่ไม่ควรทำ เพื่อป้องกันตัวเองจากฝุ่นพิษ PM2.5 ดังนี้
สิ่งที่ควรทำ (5 Do)
1. เช็คค่าฝุ่นก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง
– ตรวจสอบค่าฝุ่น PM2.5 จากแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ เช่น AirVisual หรือเว็บไซต์กรมควบคุมมลพิษ
2. ใช้หน้ากากป้องกันฝุ่น PM2.5 ที่ได้มาตรฐาน
– เลือกใช้หน้ากาก N95 หรือหน้ากากที่ออกแบบมาเพื่อกรองฝุ่น PM2.5 โดยเฉพาะ
3. ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด
– ลดการเปิดประตูหน้าต่างในช่วงที่ค่าฝุ่นสูง และใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีฟิลเตอร์ HEPA เพื่อช่วยกรองฝุ่นในบ้านหรือที่ทำงาน
4. ทำความสะอาดบ้านด้วยผ้าชุบน้ำทุกวัน
– การทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำช่วยลดการสะสมของฝุ่นภายในบ้าน
5. ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ 8-10 แก้วต่อวัน
– การดื่มน้ำช่วยให้ร่างกายขับสารพิษและรักษาสุขภาพให้แข็งแรง
สิ่งที่ไม่ควรทำ (5 Don’t)
1. งดการทำกิจกรรมภายนอกอาคาร
– โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับสูง เช่น ช่วงเช้าตรู่หรือช่วงเย็นที่อากาศนิ่ง
2. เลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้ง
– หากต้องการออกกำลังกาย ควรเลือกทำกิจกรรมในร่มแทน
3. ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล หรือรถที่มีควันดำ
– หันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะหรือพาหนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแทน
4. ไม่เผาขยะ หรือพืชผลทางการเกษตรกลางแจ้ง
– การเผาขยะหรือใบไม้จะเพิ่มปริมาณฝุ่นและมลพิษในอากาศ
5. ไม่จุดธูป หรือก่อให้เกิดควันไฟ
– ลดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดควันภายในบ้าน เช่น การจุดธูปหรือเทียน
การดูแลตัวเองในช่วงที่ค่าฝุ่น PM2.5 สูงเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพ และยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวมด้วยความร่วมมือจากทุกคนในสังคม
cr. กรมประชาสัมพันธ์