“หมอเอก” อดีต สส.เชียงราย เผยรายงาน กมธ.ชุดก่อนหน้าแนะยกเลิกการแบนบุหรี่ไฟฟ้าและควบคุมให้ถูกกฎหมาย ตั้งข้อสังเกตการใช้งบประมาณไม่โปร่งใส ทำไทยล้มเหลวลดจำนวนผู้สูบบุหรี่และป้องกันการระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า จี้ทบทวนแนวทางการควบคุมยาสูบ พร้อมเตรียมแฉข้อมูลเบื้องหลังผลประโยชน์ทับซ้อนในวงการควบคุมยาสูบ
นายแพทย์เอกภพ เพียรพิเศษ หรือ หมอเอก อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.เชียงราย และอดีตรองประธานคณะอนุกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “รู้หรือไม่ว่านอกจากรายงานของกรรมาธิการวิสามัญบุหรี่ไฟฟ้าที่กำลังจะสรุปความเห็น และมีกรรมาธิการส่วนใหญ่เห็นด้วย “ให้ควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าด้วยกฎหมาย” แทนการแบนบุหรี่ไฟฟ้า ก่อนหน้านี้ ในสภาชุดที่แล้วได้มีรายงานของอนุกรรมาธิการ สองชุด คือ อนุกรรมาธิการของกรรมาธิการการพาณิชย์ และ อนุกรรมาธิการของกรรมาธิการการสาธารณสุข ซึ่งก็ต่างมีความเห็นออกมาในทิศทางเดียวกัน… คือให้ยกเลิกการแบนบุหรี่ไฟฟ้าแล้วให้มีการควบคุมโดยกฎหมาย เหมือนกับที่ใช้ควบคุมบุหรี่มวน”
ในโพสต์ดังกล่าว นพ.เอกภพฯ ยังได้ระบุว่าสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ผ่านๆ มายังมีการนำปัญหาเกี่ยวกับยาสูบเข้าพิจารณาหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมาธิการการเงินการคลัง หรือ คณะกรรมาธิการแก้ปัญหาพืชผลเกษตร ทำให้รับทราบข้อมูลปัญหาในการดำเนินนโยบายควบคุมยาสูบที่ผ่านมา พร้อมตั้งข้อสังเกตว่านโยบายควบคุมยาสูบของประเทศไทยล้มเหลวหรือไม่ เพราะไม่สามารถลดอัตราการสูบบุหรี่ได้ตามเป้าหมาย อีกทั้งยังทำให้มีการเติบโตของบุหรี่เถื่อนอย่างมากหลังมีการควบคุมยาสูบด้วยมาตรการทางภาษีแบบสุดโต่งและผิดพลาด รวมถึงความล้มเหลวในการจัดการปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าที่แพร่ระบาดในเยาวชน แม้จะมีการแบนมาตั้งแต่ปี 2557
“อดีตอาจจะหอมหวาน ได้เป็นลูกรักขององค์การอนามัยโลกด้านการควบคุมยาสูบ แต่ปัจจุบันและอนาคตอาจไม่เป็นแบบนั้นถ้ามัวแต่หมกมุ่น ใช้ทรัพยากรทุกอย่างที่มีรณรงค์ให้คงการแบนบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่สามารถทำได้จริงในทางปฏิบัติแล้ว ถึงเวลาที่ต้องทบทวนแนวทางการควบคุมยาสูบของประเทศไทยอย่างเป็นระบบ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป”
พร้อมทิ้งท้ายว่า “หลังจากที่ใช้เวลารวบรวมข้อมูลอยู่นาน ผมได้ชุดข้อมูลที่น่าตกใจเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อนของคนบางกลุ่ม ที่หากินกับงบประมาณในการควบคุมยาสูบ ที่รอบนี้มีใบเสร็จ มีหลักฐานคำสั่ง หลักฐานการมีส่วนร่วมชัดเจน แล้วจะนำมาเผยแพร่เร็วๆ นี้ครับ”
Cr. Facebook : หมอเอก Ekkapob Pianpises
