วันนี้ (5 ธันวาคม 2567) ตั้งแต่เวลา 07.00 น. รัฐบาลเปิดให้ประชาชนสักการะ พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสการครบรอบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – จีน ในปี 2568 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เป็นวันแรก
ประชาชนให้ความสนใจเดินทางเข้ามาสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากทั่วประเทศ เพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมดอกไม้สักการะและโปสการ์ดพร้อมบทสวดบูชาพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มอบให้ประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ตลอดทุกวันที่ประดิษฐาน
นอกจากนี้ ภายในท้องสนามหลวง จะมีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และมีการจัดกิจกรรมทุกวัน ได้แก่ พิธีเจริญพระพุทธมนต์ช่วงเช้า เวลา 10.00 น. – 12.00 น. และช่วงเย็น เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป และพิธีเจริญจิตตภาวนา ในทุกวันพระมีพิธีแสดงธรรมเทศนา 1 กันต์ (ในภาคเช้า)
โอกาสสำคัญในระยะเวลาการประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ณ ท้องสนามหลวง จะมีกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี 31 ธันวาคม 2567 กิจกรรมทำบุญตักบาตรวันขึ้นปีใหม่ 1 มกราคม 2568 กิจกรรมวันตรุษจีน (วันขึ้นปีใหม่จีน) วันที่ 29 มกราคม 2568 และกิจกรรมวันมาฆบูชา วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568
ในการนี้ รัฐบาลขอเชิญชวนประชาชนสักการะ พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 07.00 น. – 20.00 น. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และจะอัญเชิญกลับในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568