ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

สีกากียอมรับ “บิ๊กต่าย” ไม่หวั่นโดนบางฝ่ายบีบ วางมาตรฐานแต่งตั้ง “ตร.” “เอก อังสนานนท์” คือผู้ยืนยัน


23 พฤศจิกายน 2024, 18:37 น.

 

แหล่งข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 10/2567 เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2567 ที่ผ่านมา ซึ่งมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีการหารือวาระสำคัญ คือวาระที่ 4 เรื่องที่ 4 การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ วาระประจำปี 2567 ระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ถึงผู้บัญชาการ (ผบช.) เป็นการใช้ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 เป็นครั้งแรก จำนวน 41 ตำแหน่ง

 

แหล่งข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดเผยว่า การแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ยอมรับว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ดำเนินการได้โดยยึดกฎหมายและหลักอาวุโสรวมทั้งพิจารณาความรู้ความสามารถของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างเป็นธรรม ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติยอมรับ แม้สื่อมวลชนบางแขนงวิจารณ์ว่าการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ฝ่ายการเมืองเข้ามาแทรกแซง และมีกระแสข่าวว่าในวันข้างหน้า ผบ.ตร. อาจถูกโยกไปช่วยราชการที่สำนักนายกฯเพราะไม่สนองตอบการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ของฝ่ายการเมืองนั้น ข้อเท็จจริงนี้ขอให้พิจารณาสิ่งที่พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิให้สัมภาษณ์เรื่องนี้กับสื่อมวลชนหลายสำนักแล้วว่า การแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้โปร่งใส

 

“พล.ต.อ.เอกฯ กล่าวกับสื่อมวลชนแล้วเมื่อไม่กี่วันมานี้ว่าการแต่งตั้งโยกย้ายระดับรอง ผบ.ตร .- ผู้บัญชาการครั้งนี้โปร่งใส เป็นธรรม และยึดกฎหมายตำรวจฉบับใหม่และไม่มีฝ่ายการเมืองแทรกแซง ตรงนี้คือสิ่งยืนยัน หากผบ.ตร.ไม่ดำเนินการแบบนี้ ปัญหาในองค์กรตำรวจจะไม่จบ เชื่อว่าการทำงานขององค์กรตำรวจจะดีขึ้นและทุกฝ่ายยอมรับ”

 

แหล่งข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ลำดับต่อไปคือการแต่งตั้งโยกย้ายระดับ รองผู้บัญชาการ – สารวัตร เชื่อว่าจะมีความโปร่งใสเพราะหากดำเนินการไม่ถูกต้อง ผบ.ตร. จะเป็นลำดับต้นๆ ที่อาจถูกผู้ใต้บังคับบัญชาร้องเรียนผ่าน กพค.ตร. และศาลปกครองสูงสุด เพราะกฎหมายตำรวจฉบับใหม่มีความรัดกุม พิจารณาในรูปแบบคณะกรรมการเพื่อป้องกันการแทรกแซงจากฝ่ายต่างๆ เพราะหลายปีที่ผ่านมาจะพบการยกเว้นหลักเกณฑ์ของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่บางนายที่ขยับตำแหน่งแบบผิดปกติ และบางครั้งในช่วงนั้นก็มีกระแสข่าวว่า มีการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งผ่านนายตำรวจบางคน จนเกิดความไม่พอใจจากหลายฝ่ายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

 

แหล่งข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ผบ.ตร. จึงให้หลักการไว้ว่าในช่วงที่ ผบ.ตร. รับหน้าที่ ปัญหาเหล่านี้ต้องไม่เกิดขึ้นและจะวางระบบไว้เป็นมาตรฐานเพื่อให้ทุกฝ่ายยอมรับเพราะภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในตอนนี้มีทั้งบวกและลบ ผบ.ตร. พยายามให้ภาพลบเกิดขึ้นน้อยที่สุด และ ผบ.ตร. พยายามดูแลระบบสวัสดิการของกำลังพลกว่าสองแสนนายทั่วประเทศให้ดีขึ้นเพื่อไม่ให้ตำรวจทุกนายไปกระทำสิ่งผิดกฎหมายหรือรังแกประชาชน และหากตำรวจนายใดกระทำผิดต้องมีการสอบสวนและลงโทษขั้นเด็ดขาดโดยเร็ว

 

แหล่งข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตอนนี้สังคมจะพบว่าคดีสำคัญๆ หลายคดีที่เกิดขึ้นนั้นมีการดำเนินคดีที่รอบคอบ รวดเร็ว เป็นธรรม เพราะ ผบ.ตร. ติดตามคดีเหล่านี้ต่อเนื่องและให้กำลังใจผู้ใต้บังคับบัญชาทุกนายเป็นระยะ ส่วนคดีอื่นๆ ในช่วงที่ผ่านมานั้น ผบ.ตร. ให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็วและต้องชี้แจงให้สังคมรับทราบเพื่อคลี่คลายข้อสังเกตของฝ่ายต่างๆ เพราะวันนี้ยอมรับว่าสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ข้อมูลรวดเร็วและอาจมีข้อผิดพลาดบ้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะหนึ่งในกระบวนการยุติธรรมที่มีหน้าที่รักษากฎหมายต้องดำเนินการกับเบาะแสเหล่านั้นให้รอบคอบและรวดเร็วเพื่อให้ข้อสังเกตและข่าวสารที่แชร์กันในโลกออนไลน์อาจทำให้สังคมสับสนตรงนี้ ผบ.ตร.กำชับว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องตรวจสอบและคลี่คลายลงโดยเร็ว

 

ข่าวในหมวดเดียวกัน

เพิ่มเติม...

การเมือง

คอลัมนิสต์

คมในความ

มหาราษฎร์ Shorts

ภาพเก่าเล่าอดีต

ไฮไลท์

ข่าวประชาสัมพันธ์

ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

ท่องเที่ยว

ศาสนา

สุขภาพ

แวดวงนักรบ

สังคม

บทบาทบุคคล

< กลับหมวดตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

เรื่องล่าสุด