เมื่อวันที่ 30 ก.ย.2567 ที่มหาวิทยาลัยสวนดุสิต มูลนิธิต่อต้านการทุจริต และสมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) จัดแถลงข่าวการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ร่วมกับสถาบันอุดมศึกษา 24 แห่ง โดยมีศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ ประธานกรรมการมูลนิธิต่อต้านการทุจริต ให้เกียรติมาเป็นประธาน, ดร.เอก์ เหลืองสอาด นายกสมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) และ ผศ.ดร.พิทักษ์ จันทร์เจริญ รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ในฐานะตัวแทนสถาบันอุดมศึกษาทั้ง 24 แห่ง ร่วมงานด้วย
โดย ศาสตราจารย์พิเศษ วิชาฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า “รู้สึกปลาบปลื้มใจที่ผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษามีเจตนารมณ์ร่วมกันในการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับบ้านเมืองอย่างใหญ่หลวง ที่ผ่านมาการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ หรือเอ็มโอยู กับสถาบันอุดมศึกษาครบวาระ 3 ปีแล้ว แม้ว่าที่ผ่านมาจะต้องเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้การจัดกิจกรรมต่างๆ ดำเนินไปด้วยความล่าช้า มูลนิธิต่อต้านการทุจริต และสมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ยังมุ่งมั่นเดินหน้าจัดกิจกรรมเพื่อปลูกฝังค่านิยมเยาวชน นิสิต นักศึกษา ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล รู้เท่าทันการทุจริตคอร์รัปชั่น
ศาสตราจารย์พิเศษ วิชาฯ กล่าวอีกว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ท่านได้นิยามเกี่ยวกับคอร์รัปชั่นว่า “การทุจริต…คือการปล้นชาติ” ซึ่ง พล.อ.เปรมฯ ได้เคยปรารภเรื่องการต่อต้านการทุจริต เพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน ดังนั้นการที่อธิการบดีและผู้แทนสถาบันอุดมศึกษาที่แสดงเจตจำนงลงนามความร่วมมือวันนี้ จึงนับเป็นสิ่งที่งดงาม และมีคุณค่าเป็นอย่างยิ่ง”
ดร.เอก์ เหลืองสอาด นายกสมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชั่น(ประเทศไทย) กล่าวว่า ขอบคุณอธิการบดีและผู้แทนสถาบันอุดมศึกษาทั้ง 24 แห่ง ที่ตอบรับคำเชิญเข้าร่วมโครงการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งปัญหาการทุจริตเปรียบเสมือนมะเร็งร้ายทำลายชาติ โดยจะมีการจัดกิจกรรมผ่านเวทีเสวนา “นักศึกษาวัยใส ใจสุจริต” หรือกิจกรรมอื่นที่เป็นประโยชน์ในการป้องกันการทุจริต ที่จะทำร่วมกันในอนาคต
สำหรับสถาบันอุดมศึกษาที่เข้าร่วมลงนามในครั้งนี้ ได้แก่
1.มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
2.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
3.มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
4.มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
5.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร
6.มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด
7.มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
8.มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
9.มหาวิทยาลัยเกริก
10.มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
11.มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
12.มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์
13.มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์
14.มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ
15.มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
16.มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์
17.มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี
18.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์
19.มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี
20.มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
21.มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
22.มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
23.มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา และ
24.มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย
โดยก่อนหน้านี้ มูลนิธิฯ และสมาคมฯ ได้ทำเอ็มโอยูกับมหาวิทยาลัย 15 แห่ง ได้แก่
1.มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
2.มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
3.มหาวิทยาลัยบูรพา
4.มหาวิทยาลัยขอนแก่น
5.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
6.มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
7.มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
8.มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี
9.มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
10.มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา
11.มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
12.มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง
13.มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
14.มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต และ
15.มหาวิทยาลัยรังสิต
“หวังเป็นอย่างยิ่งว่า บันทึกข้อตกลงที่ทำขึ้นในวันนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยในการบ่มเพาะเยาวชนต้นกล้า ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ มีความประพฤติดี มีหน้าที่การงานดี ที่สำคัญมีความซื่อสัตย์ สุจริต รักชาติ รักแผ่นดิน ก็จะส่งผลให้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นลดน้อยลงได้ไม่มากก็น้อย” ดร.เอก์ฯ กล่าว
ขณะที่ ผศ.ดร.พิทักษ์ จันทร์เจริญ รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า มหาวิทยาลัยสวนดุสิตขอเป็นตัวแทนผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษาที่เข้าร่วมลงนามในครั้งนี้ ขอบคุณมูลนิธิต่อต้านการทุจริต และสมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ที่จัดโครงการนี้ขึ้น เพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ สร้างจิตสำนึก นิสิต นักศึกษา ไม่ทนต่อการทุจริต โดยมหาวิทยาลัยพร้อมดำเนินกิจกรรมร่วมกับมูลนิธิฯ และสมาคมฯ ตามบันทึกข้อตกลงนี้ ในโอกาสต่อไป