เมื่อวันที่ 29 ก.ค.2567 ที่วัดยางสุทธาราม แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ : ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในพิธีพระราชทานเพลิงศพของ พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ (รองหรั่ง) รอง ผกก.ป.สน.ท่าข้าม ที่เสียชีวิตจากการเข้าระงับเหตุชายคุ้มคลั่ง นายบุญมา หรือเสี่ยตุ๊ง วณิชพงศ์ธร ภายในหมู่บ้าน ดี.เค. ซอย 2 (พระยามนธาตุราชศรีพิจิตร์) ถ.กาญจนาภิเษก แขวงคลองบางบอน เขตบางบอน กทม.

โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. เดินทางมาเป็นประธานในพิธีฯ พร้อมด้วย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง, พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม, พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พล.ต.ต.ประสงค์ อานมณี ผบก.น.9 และข้าราชการตำรวจในสังกัด บช.น. และบก.น.9 และเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม พร้อมครอบครัวญาติคนสนิทของผู้เสียชีวิตเข้าร่วมพิธีฯ ที่จัดขึ้นอย่างสมเกียรติ

ต่อมาเวลา 14.00 น. ครอบครัวของผู้เสียชีวิตพร้อมเจ้าพนักงานกองพิธีการศพ กระทรวงวัฒนธรรม ได้นำหีบทองลายสลักขึ้นราชรถก่อนวนรอบเมรุ 3 รอบ โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าของประชาชนที่เข้าร่วมพิธี นอกจากนี้ยังมีการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์จากกรมศิลปากรเพื่อประกอบในพิธีอีกด้วย

ในเวลา 16.30 น. เจ้าพนักงานกองพิธีการศพ กระทรวงวัฒนธรรม ได้ทำการอัญเชิญกองเพลิงพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยมีตำรวจกองเกียรติยศจำนวน 78 นาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.9 ที่แต่งกายข้าราชการปกติขาวได้จัดแถวรับตะเกียงไฟและดอกไม้จันทร์พระราชทานฯ เพื่อใช้ในการประกอบพิธีฯ ท่ามกลางบรรยากาศฟ้าครึ้มฝนตกหนัก โดยมี ร.ต.ท.วันรัฐธ์ จันยะรมณ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ บุตรชาย และ พ.ต.ท.วันเผด็จ จันยะรมณ์ รอง ผกก.2 บก.ปอศ. หลานชาย เป็นผู้อ่านสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ซึ่งนำความทราบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณแก่ครอบครัวของ พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ฯ อย่างหาที่สุดมิได้

ต่อมาในเวลา 17.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้เป็นประธานในการนำดอกไม้จันทร์จุดไฟพระราชทาน แล้ววางบนจิตกาธานบริเวณฐานฟืน และเคารพศพส่งดวงวิญญาณของผู้วายชนม์เป็นครั้งสุดท้าย

ทั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดูแลสิทธิประโยชน์เบื้องต้นให้กับครอบครัวของ พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ฯ จำนวน 4,577,210 บาท พร้อมปูนบำเหน็จความดีความชอบตอบแทนเป็นกรณีพิเศษ โดยขอเลื่อนเงินเดือนให้ 6 ขั้น ขอพระราชทานยศเป็น “พลตำรวจเอก”