วิชามาร “ชัชชาติต้องขอโทษ พ่อชัชชาติปราบ นศ.”
วิชามารเป็นวิชาที่เกิดขึ้นมาเพื่อกล่าวหาคนอื่น เพื่อบั่นทอนกำลังใจ ทำให้คนรับข้อมูลลังเลที่จะเปิดใจในการรับฟังข้อเท็จจริงและนำไปสู่การตัดสินใจต่อคนที่ถูกกล่าวหาผิด
ผมเห็นบทความที่เขียนกล่าวหา ดร.ชัชชาติ หลายเรื่อง รวมทั้งกล่าวหา พล.ต.อ.เสน่ห์ สิทธิพันธุ์ ปราบปราม นศ. และ ดร.ชัชชาติ ผู้เป็นลูกต้องมาขอโทษประชาชน ซึ่งอ่านครั้งแรกก็รู้สึกว่าเป็นคำกล่าวหาที่รุนแรงและไม่ยุติธรรมสำหรับ ดร.ชัชชาติ เหมือนเรื่องหมาป่ากับลูกแกะ
ครั้งแรกผมก็คิดว่าเรื่องการกล่าวหาลอย ๆ เพื่อป่วนความรู้สึก แต่ผมมาที่เมืองชิคาโก ผมได้รับคำถามและข้อมูลจากพี่ธัชพงศ์ผู้นำพันธมิตรจากกรุงวอชิงตัน ดีซี.จึงเห็นว่าเป็นบทความของ พันุธ์ทิพย์ ธีระเนตร (มติชนรายวัน 5 ตุลาคม 2664) ซึ่งคนเขียนผมไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ผมอ่านบทความแล้ว อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมไม่อ้างอิงจดหมายของ พระสุรินทร์ มาศดิตถ์ เลยเพราะจดหมายนี้จะบอกให้เห็นว่าตัวการที่สำคัญที่ห้ามและกีดกันการประกาศภาวะฉุกเฉินของท่านนายกรัฐมนตรี เสนีย์ ปราโมทย์ คือ พล.ต.ชาติชาย ชุณหะวัณ และ พล.ต.ต.เจริญฤทธิ์ จำรัสโรมรัน นายตำรวจ ตชด.ที่นำ ลูกเสือขาวบ้านมาชุมนุม ได้โต้เถียงกับนายกฯ ทั้งให้การยืนยันว่าลูกเสือชาวบ้านมีวินัยเหมือนทหารตำรวจ และต่อมา พล.ต.ท.ชุมพล โลหะชาละ ได้ไปร้องไห้ในการประชุม ครม.ว่า นศ.มีอาวุธร้ายแรงยิงตำรวจบาดเจ็บและล้มตายจำนวนมาก ตำรวจนครบาลสู้ไม่ได้เลยให้ ตชด.เข้าไปปราบปราม
ต่อมาไม่นาน พล.ต.อ.ศรีสุข มหินทรเทพ อธิบดีกรมตำรวจเข้ามารายงานว่า ไม่มีตำรวจตายแต่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งถ้าดูบทความของ พันธุ์ทิพย์ ธีระเนตรรายงาน
เวลา 7.50.น. พล.ต.ท.ชุมพล โลหะชาละ รองอธิบดีกรมตำรวจ พล.ต.ต.เสน่ห์ สิทธิพันธุ์ และ พล.ต.ต .ยุทธนา วรรณโกวิทย์ มาหน้า มธ.
เวลา 8.10.น. พล.ต.ต.เสน่ห์ สิทธิพันธุ์ สั่งการตำรวจ ตชด.บุก มธ.
เวลา 8.18 น. ตำรวจ ตชด. 2 คันรถเปลี่ยนตำแน่งตำรวจนครนบาล
เวลา 8.25 น. ตชด.ยึด มธ.และจับกุมนักศีกษาได้
จากข้อเท็จจริงและเงื่อนเวลา
พล.ต.ต.เสน่ห์ สิทธิพันธุ์ เป็นลูกน้องของ พล.ต.ท.ชุมพล โลหะชาละ ทำไมไม่เขียนว่า พล.ต.ท.ชุมพล สั่งการเพราะยศสูงกว่าและเป็นไปไม่ได้เลย ที่ พล.ต.ต. ใน บชน.จะสั่งการแทนนายตำรวจ ตชด.ในการปฏิบัติการภาคสนาม และถ้าดูจากบันทึกของพระสุรินทร์ มาศดิตถ์หัวหน้าตำรวจ ตชด.ชื่อ พล.ต.ต .กระจ่าง จึงทำให้เห็นว่ารายงานของพันธ์ทิพย์ ไม่ถูกต้อง อีกทั้งเงื่อนเวลา 8.10 น.สั่งการ 8.25 น.ยึด มธ. ได้ ใช้เวลาแค่ 15 นาทีจึงเป็นการเขียนที่ไม่น่าเชื่อถือ (ที่ติงนี้เพราะไม่อยากให้ใครใช้เหตุการณ์ 6 ตุลา ฯ 19ไปทำร้ายคนอื่น จะเป็นบาปกรรมเปล่า ๆ)
เหตุการณ์เกิด 6 ตุลาคม พ.ศ.2519 ดช.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อายุเพียง 10 ขวบ แม้จะเป็นไปตามการกล่าวหาว่าพ่อสั่งปราบ นศ. ผู้อ่านคิดว่า ดร.ชัชชาติ ต้องมารับผิดชอบด้วยไหม
จากจดหมายของพระสุรินทร์บอกว่า ภายหลัง ตชด.ควบคุม มธ.ได้แล้ว พล.ต.ต.กระจ่าง หัวหน้าตำรวจ ตชด. ได้รายงานว่าจับกุม นศ.ได้ 3,000 คน พบอาวุธปืน 3 กระบวกเป็นปืนพกขนาด .22 และเมื่อ พณฯ เสวต เปี่ยมพงศ์สานต์ ถามว่าเสียงยิงที่ดังนั้นของใคร ท่าน พล.ต.ต.กระจ่าง บอกว่าเป็นของ ตชด. ซึ่งพระสุรินทร์ มาศดิตถ์ ได้ยกย่องนายตำรวจผู้นี้มากที่รายงานความจริง
เหตุการณ์ 6 ตุลาฯ 2519 เป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ผมเองเป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาต้องตกเป็นจำเลยภายใต้กฎอัยการศึก ต้องขึ้นศาลทหารยามสงคราม ด้วยข้อหากบฏภายในราชอาณาจักร มีการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์และคดีอื่น ๆ รวม 9 คดี และมี 6 คนมีข้อหาหมิ่นสถาบันฯ ซึ่งไม่รู้ชะตากรรมในช่วงแรกอาจนำไปสู่การยิงเป้าหรือถูกนำไปสร้างสถานการณ์ใหม่หรือไม่
ถ้าถามว่าผมลืมเหตุการณ์หรือไม่ ผมไม่ลืมแต่ผมให้อภัย อย่างผมและพี่โต้ง (ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ) เราต่างมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน มาวันนี้มีการกล่าวถึง พล.ต.ต.เสน่ห์ว่าเป็นผู้สั่งการปราบ นศ. ผมก็คิดว่า ลูกก็ไม่ต้องมารับชอบต่อผลการกระทำของพ่อ
ผมยืนยันอย่างหนักแน่นในฐานะผู้ถูกกระทำในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ว่าอย่าเอาเรื่องนี้มาทำลายความน่าเขื่อถือต่อ ดร.ชัชชาติ แต่ถ้าจะคิดเชิงสร้างสรรค์เรียกร้องให้รัฐไทยเยียวยาผู้ถูกกระทำจากเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 น่าจะดีกว่าเพราะบาดแผลที่ฝังลึกและไม่เคยมีการเยียวยาเลย ถึงเวลาก็ส่งกระแสแห่งความเจ็บปวดมาหลอกหลอนไม่สุดไม่สิ้น
ดร.ประยูร อัครบวร
10 พ.ค.2565
* ดร.วีนัตย์ แดงด้อมยุทธ หนึ่งใน 3 พันคนที่ถูกจับกุมใน มธ.ช่วยหาข้อมูล ว่า พล.ต.ต.กระจ่าง นามสกุล “ผลเพิ่ม” ต้องขอขอบพระคุณ พล.ต.ต.กระจ่าง ที่ให้ความจริง