‘ศตวรรษแห่งความอัปยศอดสู’ (Century of Humiliation) ของจีน ที่ถูกกำลังต่างชาติยึดเกาะฮ่องกง เป็นเวลา 99 ปี หรือพรรคเพื่อไทย จะเดินตามรอย “ฮ่องกง” ให้ต่างชาติยึดแผ่นดินไทยตามรอยความอัปยศของประเทศที่กลายเป็นเมืองขึ้น

สำหรับพรรคคอมมิวนิสต์จีน วันที่ 1 ตุลาคม 1949 คือวันแห่งประวัติศาสตร์เพราะในวันนี้คือวันปลดปล่อยประเทศจีนปลดแอกจากประเทศเมืองขึ้นและเปลี่ยนชื่อประเทศใหม่เป็น “สาธารณรัฐประชาชนจีน” ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์ ใช้การปกครองแบบสังคมนิยม ประเทศที่ต้องสร้างตัวขึ้นมาใหม่จากจากคำขวัญของพรรค ชูธงเปลี่ยนจาก ‘ศตวรรษแห่งความอัปยศอดสู’ (Century of Humiliation) เป็นประเทศจีนใหม่

พรรคคอมมิวนิสต์จีนถือว่าการพ่ายแพ้สงครามฝิ่นครั้งที่ 1 คือจุดเริ่มต้นของความล้มเหลวทั้งปวง โดยสงครามฝิ่นครั้งที่ 1 (First Opium war) เกิดขึ้นในระหว่างปี 1839-1842 ในรัชสมัยของจักรพรรดิเต้ากวง (Daoguang) แห่งราชวงศ์ชิง นี่คือหมุดหมายสำคัญเพราะนี่คือครั้งแรกที่จีนต้องพ่ายแพ้อย่างย่อยยับให้กับชาติตะวันตก กลุ่มคนที่ราชวงศ์จีนไม่เคยเห็นอยู่ในสายตา และเป็นครั้งแรกที่จีนสูญเสียอย่างหมดทางสู้ต่อลัทธิล่าอาณานิคม

ฝิ่นถูกนำเข้ามาขายในจีนโดยอังกฤษเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดดุลการค้า เมื่ออังกฤษสูญเสียเงินทองจำนวนมากมายมหาศาลเพื่อซื้อสินค้าต่างๆ จากจีนมาตลอดหลายร้อยปี ชาติตะวันตกโดยเฉพาะอังกฤษ นำเอาฝิ่นมาขายในจีนเพื่อหวังกำไรมหาศาลจากการเสพติด ในขณะเดียวกันฝิ่นก็มอมเมาให้ชาวจีนหมดทางที่จะกลับมาคิดทำการผลิต หมดสติปัญญาที่จะทำการค้าขายและทำกำไรได้เหมือนดังเดิม จักรพรรดิเต้ากวงประกาศห้ามการค้าฝิ่นอย่างเด็ดขาด แน่นอนว่านี่คือการขัดผลประโยชน์มหาศาลกับพ่อค้าจากโลกตะวันตก ดังนั้นพ่อค้าตะวันตกก็ยังคงลักลอบค้าฝิ่นกันต่อไป ทำให้ในที่สุดทางการจีนต้องยึดและทำลายฝิ่นจำนวน 20,283 ลังหรือกว่า 1,210 ตันที่จับยึดได้ ฝ่ายอังกฤษตอบโต้โดยการทิ้งเมืองท่ากวางโจว และออกไปตั้งสถานีการค้าใหม่บนเกาะที่อยู่ในทะเล เกาะแห่งนี้คือ ฮ่องกง พร้อมกับเรียกเรือปืนอีก 28 ลำเดินหน้าเข้าไปยังเมืองหลวงทางตอนใต้ของจีน นครนานกิง

สงครามฝิ่นครั้งที่ 1 ดำเนินไปเรื่อยๆ พร้อมๆ กับที่จีนพ่ายแพ้มากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดจีนต้องยอมลงนามใน ‘สนธิสัญญานานกิง’ (Treaty of Nanking) ซึ่งฝ่ายจีนเรียกว่า ‘สนธิสัญญาอันไม่เป็นธรรม’ (Unequal Treaties) สนธิสัญญาฉบับนี้บังคับให้จีนต้องยกเลิกระบบกวางโจว หรือระบบการค้าผูกขาดที่อนุญาตให้ต่างชาติซื้อขายสินค้าได้เฉพาะกับทางการจีนที่เมืองกวางตุ้ง (Canton) เท่านั้น จีนถูกบังคับให้เปิดเมืองท่า เซียงไฮ้ (Shanghai), กวางโจว (Guanzhou หรือ Canton), หนิงปอ (Ningbo หรือ Ningpo), ฟูโจว (Fuzhou หรือ Fuchow), เซี้ยเหมิน (Xiamen หรือ Amoy) เสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ทำให้ฝรั่งไม่ต้องเกรงกลัวและเคารพกฎหมายจีน รวมทั้งเสียเกาะฮ่องกงให้กับอังกฤษ (โดยการใช้กำลังทหารบังคับ)และนี่คือจุดเริ่มต้นของศตวรรษแห่งความอัปยศอดสูที่มีการสูญเสียอำนาจอธิปไตยของจีนบนเกาะฮ่องกงเป็นสัญลักษณ์สำคัญ

ถามว่า พรรคเพื่อไทยและนายเศรษฐา ทวีสิน และคณะ จะนำประเทศไทยไปสู่ ‘ศตวรรษแห่งความอัปยศอดสู’ (Century of Humiliation) โดยขายแผ่นดินให้ต่างชาติ 99 ปีอีกหรือ ทำไมไม่ศึกษาจากประเทศเมืองขึ้นแบบจีนที่ปลดปล่อยตัวเองไปแล้ว หรือพรรคการเมืองเพื่อไทยและนายเศรษฐา ทวีสิน จะนำประเทศไทศไปเป็นประเทศอาณานิคมโดยเสียงข้างมากในสภา ?

“แผ่นดินไทยต้องเป็นของคนไทยทุกตารางนิ้ว”

ขุนจัน พันนา