ณ หน่วยงานต้นธารธรรม
มีผู้คนเข้าอาสาเข้ามาเพื่อทำงานมากมายต่างคนต่างก็ล้วนมีบุคลิก ลักษณะ ที่แตกต่างกันไปทั้ง ๆ ที่มีพื้นฐานมาจากเบ้าหลอมที่เดียวกัน หรือคล้าย ๆ กัน
บางคนทุ่มเททำหน้าที่ บางคนอัปรีย์หาแต่เงิน
<คนทุ่มเททำหน้าที่>นั้น มักเป็นคนไม่ค่อยพูด เก็บตัวเงียบ ๆ ไม่โอ้อวดสิ่งที่ปรากฏให้สังคมรับรู้ คือผลงานเท่านั้น
แต่พวก<อัปรีย์ชน> เป็นพวกที่ร่ำรวย บนคำสาปแช่ง มียศ มีตำแหน่ง บนความชั่วช้า คนเหล่านี้ จะมีลักษณะที่เหมือน ๆ กัน คือ
<สมอง> มักจะเล็กกว่าคนปกติ คิดอะไรไม่ค่อยถูก ทำอะไรไม่ค่อยเป็น แต่เรื่องทุจริตปลิ้นปล้อน ตลบตะแลง แม่ง ! โคตรเก่ง
<ตา> มีคำกล่าวว่า ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจสายตาของคนพวกนี้ มักจะทำท่าแข็งกร้าวใส่คนอื่นนัยว่าเพื่อข่มขู่
<ปาก> พูดดีเป็นศรีแก่ตัว แม้นพูดชั่วอัปราชัยปากของไอ้พวกนี้ พูดแต่ละคำแต่ละประโยค มันหาความจริงไม่ได้เลย กลับตาลปัตรเป็นตรงกันข้ามหมด ปากเป็นเอก เลขเป็นโท หนังสือเป็นตรี ช้่วดีเป็นจัตวา ใช้กับคนประดานี้ไม่ได้
<หัวใจ> สูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงร่างกาย เลือดดี มีสีแดง แต่คนกลุ่มนี้ เลือดไม่ดีเลยไม่รู้ว่าเลือดสีอะไร ?
<เส้นทางการเงิน> ก็เดินวนรอบตัว ทั้งคนใกล้ชิดและคนสนิท ครั้งแล้วครั้งเล่า เดือนแล้วเดือนเล่า ปีแล้วปีเล่าจนเป็นเงินนับร้อย นับพัน นับหมื่นล้านบาท
นี่เฉพาะในเส้นทางนะ นอกเส้นทาง ยังมีอีกไม่รู้เท่าไหร่ ?
<ประเด็น> ไม่ได้อยู่ที่ สั่งชอบหรือไม่ชอบ ? สอบชอบหรือไม่ชอบ ?
แต่มันอยู่ที่ ชั่วหรือไม่ชั่ว ?
พวกผู้น้อยในองค์กร รวมทั้งประชาชนคนทั่วไปพากันมองไปบนฟากฟ้าและพูดพร้อม ๆ กันว่า
เมื่อไหร่หนอ ? สวรรค์จะส่งคนที่
<มีสมอง> คิดเป็น ทำเป็น มาให้
เมื่อไหร่หนอ ? สวรรค์จะส่งคนที่
<มีสายตา> เป็นมิตร มาให้
เมื่อไหร่หนอ ? สวรรค์จะส่งคนที่
<มีปาก> พูดจารู้เรื่อง มีเหตุมีผล มาให้
เมื่อไหร่หนอ ? สวรรค์จะส่งจะส่งคนที่
<มีหัวใจ> มีเลือดแห่งความรักชาติ รักองค์กร รักประชาชนมาให้
เมื่อไหร่หนอ ? สวรรค์จะเอาพวกคนอัปรีย์และพวกศรีธนญชัย ไปเสียที
เมื่อไหร่หนอ ?
พล.ต.ต.ไอยศูรย์ สิงหนาท