จเรตำรวจส่งผลสอบ “ภาณุรัตน์” บินไปยินดีอวยพร “ตู้ห่าว” ที่ภูเก็ตไม่ผิด แจ้งอยู่ระหว่างเพิกถอนสัญชาติ อสส.สั่งไม่ฟ้อง “ตู้ห่าว” “วัชระ” สวน “วิ่งอัยการ” หรือไม่

6 กรกฎาคม 2567

นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตามได้ได้ร้องเรียนกรณีนายตำรวจใหญ่ไปแสดงความยินดีอวยพรนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ “ตู้ห่าว” ที่จังหวัดภูเก็ตนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีหนังสือที่ ตช 0013.151/492 ลงวันที่ 25 มิถุนายน 2567 ลงชื่อ พล.ต.ท.ธนพล ศรีโสภา จเรตำรวจ (หัวหน้าจเรตำรวจ) แจงผลการสอบสวนดังนี้

1. ประเด็นตรวจสอบ พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ ซึ่งเป็นบุคคลที่ปรากฏในภาพถ่ายร่วมกับ นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกันอย่างไร เหตุใดจึงร่วมแสดงความยินดี และถ่ายรูปร่วมกัน จากการตรวจสอบยังไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะกล่าวหา พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ มีมูลความผิดทางวินัย เห็นควรยุติเรื่อง

2. ประเด็นตรวจสอบเส้นทางการเงินของบุคคลที่ปรากฏอยู่ในภาพถ่ายร่วมกับ นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ จากการตรวจสอบไม่ปรากฏข้อมูลว่า พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมแต่อย่างใด ในชั้นนี้จึงยังไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะกล่าวหา พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญมีมูลความผิดทางวินัย เห็นควรยุติเรื่อง

3. ประเด็นตรวจสอบ นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ ว่าปัจจุบันใด้ถูกเพิกถอนสัญชาติไทยแล้วหรือไม่อย่างไร และการถูกดำเนินคดีในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรฉลอง และสถานีตำรวจนครบาลยานนาวา นั้น ประเด็นนี้ตรวจสอบกับกระทรวงมหาดไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาถอนสัญชาติไทย และในเรื่องผลคดีพื้นที่สถานีตำรวจภูธรฉลอง อัยการสูงสุดมีคำสั่งชี้ขาดไม่ฟ้อง ส่วนคดีสถานีตำรวจนครบาลยานนาวาอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ในชั้นนี้จึงยังไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะกล่าวหา พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ มีมูลความผิดทางวินัย เห็นควรยุติเรื่อง

นายวัชระ เพชรทอง กล่าวว่า “ขอขอบคุณ พลตำรวจโท ธนพล ศรีโสภา จเรตำรวจ ที่กรุณาแจ้งความคืบหน้าการสอบสวนตามที่ร้องเรียนไป ซึ่งอ่านเอกสารชี้แจงดังกล่าวแล้ว อยากถามว่า ตำรวจระดับนายพลไม่ทราบว่านายตู้ห่าวคืออาชญากรกระทำความผิดกฎหมายไทยมากมายใช่หรือไม่ และการที่ตำรวจใหญ่ไปร่วมแสดงความยินดีกับนายตู้ห่าว ผู้เป็นอาชญากรมีคดี ทำผิดกฎหมายไทยจนตกเป็นผู้ต้องหาในคดีใหญ่และโด่งดังนั้น สามารถทำได้ใช่หรือไม่”

นายวัชระ กล่าวต่อว่า “ส่วนกรณีที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งชี้ขาดไม่ฟ้องนายตู้ห่าวคดีเผาสวนงูที่ภูเก็ตนั้น สำนักงานอัยการสูงสุดในวันนี้จะไม่ชี้แจงต่อประชาชนบ้างหรือว่าตรวจสอบแล้วเป็นการชี้ขาดโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และเกิดขึ้นในยุคใครเป็นอัยการสูงสุด ชาวบ้านเขาฝากถามสำนักงานอัยการสูงสุดตรงๆว่ามีการวิ่งอัยการ ติดสินบนบ้างหรือไม่ และสาปแช่งว่าใครทุจริตใครล้มคดีขอให้พระสยามเทวาธิราชลงโทษโดยพลัน”