วันที่ 27 พฤษภาคม 2567 เวลา 11.05 น. นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ส่งหนังสือถึงนายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุด เรื่องขอให้ยืนยันคำสั่งฟ้องอัยการสูงสุด (ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด) นายทักษิณ ชินวัตร มีความผิดตามมาตรา ๑๑๒ ยื่นผ่านนาย ประยุทธ เพชรคุณ โฆษกอัยการสูงสุด
ในหนังสือร้องเรียนระบุว่า ด้วยข้าพเจ้านายวัชระ เพชรทอง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประชาชนผู้เสียภาษีอากรได้ติดตามคดีนายทักษิณ ชินวัตร ได้ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศที่ประเทศเกาหลีใต้อันเป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ มาตั้งแต่ต้น และต่อมานายทักษิณฯ ขอความเป็นธรรมและอ้างพยานหลักฐานเพิ่มเติม ได้แก่ นายทหารระดับยศพลเอกและนักการเมืองหนุ่มนักเรียนนอก เลขาธิการพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อไทย เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นพยานจัดตั้งและมีผลประโยชน์ทางการเมืองทับซ้อนในปัจจุบันนั้น
อัยการสูงสุดต้องยืนหลักการเดิมของอัยการสูงสุด (ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุดในขณะนั้น) ที่มีคำสั่งฟ้องดำเนินคดีนายทักษิณ ชินวัตร ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ เพื่อดำรงไว้ซึ่งหลักนิติรัฐและนิติธรรม ทั้งนี้ขอให้พิจารณาพยานจัดตั้งของนายทักษิณฯ ทุกปากและชั่งน้ำหนักพยานอย่างมีดุลยธรรม ก่อนจะสั่งคดีเพื่อความยุติธรรมต่อไปและอย่าใช้กระบวนการยุติธรรม ๒ มาตรฐานดังเช่นความเห็นของนายถาวร เสนเนียม อดีตอัยการ ซึ่งนายทักษิณฯ สร้างความเสียหายกับประเทศชาติมากกว่า ๑.๓ แสนล้านบาท อนึ่งก่อนหน้านี้อัยการสูงสุดได้สั่งไม่ฟ้องคนในตระกูลนี้หลายคดีเป็นที่ครหาของสังคมในการใช้ดุลพินิจของอัยการสูงสุดเรื่อยมาว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือมีใบสั่งทางการเมืองหรือไม่ เช่น
๑. อัยการสั่งไม่ฟ้อง “แม้วและพวก” ซุกหุ้นเอสซี แอสเสท
๒. อัยการไม่ฎีกาคดี “พจมาน-บรรณพจน์” เลี่ยงภาษีชินฯ
๓. พานทองแท้รอดอัยการชี้ขาดไม่อุทธรณ์ “คดีฟอกเงินกรุงไทย”
๔. โฆษกฯ อัยการ แจงยิบสั่งไม่ฟ้อง ‘อดีตเลขาฯ คุณหญิงอ้อ-สามี’ ฟอกเงิน
ทั้งนี้ พี่น้องประชาชนสงสัยในการสั่งคดีเป็นอย่างยิ่งและอดีตอัยการสูงสุดคนหนึ่งคือ นายชัยเกษม นิติสิริ ไปเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ประชาชนก็ยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีก ดังนั้นคดีนี้จึงต้องรอบคอบถ่องแท้ อย่าเลื่อนการสั่งคดีออกไปอีกและให้โลกร่ำลือในวีรกรรมการสั่งคดีเพื่อประเทศชาติในครั้งนี้
อนึ่ง นายทักษิณ ชินวัตร ปัจจุบันเป็นนักโทษหมายเลข ๖๖๕๐๑๐๒๖๖๘ คดีทุจริตถูกจำคุก ๑ ปี อยู่ในระหว่างการพักโทษให้ไปถูกคุมขังที่บ้านจันทร์ส่องหล้า กำหนดพ้นโทษวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๗ สถานะในปัจจุบันจึงยังเป็นนักโทษตามกฎหมายกรมราชทัณฑ์
จึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และกฎหมาย ผลเป็นประการใดโปรดแถลงให้ข้าพเจ้าและพี่น้องประชาชนทราบโดยเร็วที่สุดด้วย จักขอบคุณยิ่ง