ปกครองอำเภอเกาะพะงัน เข้ม! บูรณาการร่วมกับฝ่ายตำรวจ ลุยจัดระเบียบสังคมจับกุมต่างด้าวลักลอบทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ปราบปรามยาเสพติดและอาวุธปืน รวมทั้งจัดระเบียบความปลอดภัยในการท่องเที่ยว ผู้ว่าฯ เน้นย้ำ ต้องร่วมกันตรวจสอบ เป็นหูเป็นตาสอดส่องสิ่งผิดกฎหมาย แจ้งเบาะแสสายด่วน 1567 ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง
วันนี้ (22 พ.ค. 67) นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เดินหน้าดำเนินตามนโยบายการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพลทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ตรวจสอบการทำงานของชาวต่างชาติ ปราบปรามยาเสพติด และรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ด้านการท่องเที่ยวตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ตนจึงได้สั่งการให้นายนพดล ขาวมะลิ นายอำเภอเกาะพะงัน พร้อมด้วย นายสุทธิพงษ์ ทองเรือง ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง นำชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอเกาะพะงัน นำโดย มว.ต.อัครพล พูลผล ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง/ผช.ผบ.ร้อย อส.อ.เกาะพะงัน พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการพิเศษอำเภอเกาะพะงัน (ฉก.ธารเสด็จ) สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภจว.สุราษฎร์ธานี สภ.เกาะพะงัน ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงัน และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกันออกปฏิบัติหน้าที่จัดระเบียบสังคมปราบปรามผู้มีอิทธิพลทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ตรวจสอบการทำงานของชาวต่างชาติ แรงงานข้ามชาติแย่งอาชีพคนไทย และตรวจสอบการประกอบกิจการธุรกิจต่างชาติ – ธุรกิจภาคการท่องเที่ยว และปราบปรามยาเสพติด รักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่อำเภอเกาะพะงัน
“ผลจากการออกปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาที่ทำผิดเกี่ยวกับการลักลอบทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต และการประกอบกิจการธุรกิจต่างชาติ – ธุรกิจภาคการท่องเที่ยวโดยไม่มีใบอนุญาต จำนวน 3 ราย พร้อมทั้งนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย 3 คดี ดังนี้
คดีแรก ได้ร่วมกันจับกุมตัว นางสาวนุจรีย์ภรณ์ (สงวนนามสกุล) สัญชาติ ไทย อายุ 33 ปี พร้อมยึดของกลาง
1. บิลเงินสดระบุชื่อ Speed Koh Phangan ระบุรายการ ATV 3 หน่วย จำนวนเงิน 4,800 บาท TAXI 4 หน่วย จำนวนเงิน 1,200 บาท Passenger จำนวนเงิน 800 บาท รวมจำนวนเงินรวม 6,800 บาท
2. ใบสัญญากฎระเบียบสำหรับลูกค้าของบริษัท Speed Koh Phangan
3. บิลเงินสดจากร้าน Boy Fruit Shop ซื้อผลไม้ไปวางไว้ตามจุดพักที่มัคคุเทศก์ให้คำแนะนำ จำนวน 3 ใบ
4. ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว กรมการท่องเที่ยว โดยทำการแจ้งข้อกล่าวหา “ประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “เป็นนายจ้างไม่แจ้งคนต่างด้าวเข้าทำงานให้นายทะเบียนทราบภายใน 15 วันนับแต่วันที่จ้าง” คดีที่สอง ร่วมกันจับกุมตัว นายอับดุลฮาซัน (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี สัญชาติ ไทย โดยทำการแจ้งข้อกล่าวหา “ประกอบอาชีพมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาต” คดีที่สาม ร่วมกันจับกุมตัว นายอาร์ค MR.ARK อายุ 34 ปี สัญชาติ เมียนมา โดยทำการแจ้งข้อกล่าวหา “เป็นบุคคลต่างด้าวผู้ได้รับอนุญาตให้ทำงานไม่แจ้งให้ทราบถึงผู้เป็นนายจ้าง สถานที่ทำงานของนายจ้างและลักษณะงานหลักที่ทำให้นายทะเบียนทราบภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันเข้าทำงานกับนายจ้าง” เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมหลักฐานนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” นายเจษฎาฯ กล่าวเพิ่มเติม
นายเจษฎาฯ กล่าวต่อไปอีกว่า นอกจากนี้ ชุดปฏิบัติการพิเศษอำเภอเกาะพะงัน ได้ทำการจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จำนวน 3 ราย คือ คดีแรกจับกุมตัว นาย จักรพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี โดยทำการแจ้งข้อกล่าวหา “มียาเสพติดประเภท 1 (เมทแอมเฟตามี หรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพ มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” พร้อมยึดของกลาง
1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือ ยาบ้า) ชนิดเม็ด จำนวน 4 เม็ด
2. อาวุธปืนยาว ยี่ห้อ CZ 452-2E ZKM ขนาด.22 จำนวน 1 กระบอก
3. แม็กกาซีน สีดำ จำนวน 1 อัน
4. เครื่องกระสุนปืน ขนาด .22 มม. จำนวน 6 นัด
คดีที่สอง จับกุมตัว นาย ธนวัฒน์ (สงวนนามสกุล) สัญชาติไทย อายุ 31 ปี โดยทำการแจ้งข้อกล่าวหา “มียาเสพติดประเภท 1 (เมทแอมเฟตามี หรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพ มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” พร้อมยึดของกลาง
1. อาวุธปืนพกสั้น สีเงิน ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมแม็กกาซีน พร้อมเครื่องกระสุน จำนวน 4 นัด
2. ซองพกหนังสีดำ จำนวน 1 ซอง
3. เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 12 นัด
4. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือ ยาบ้า) ชนิดเม็ด จำนวน 1 เม็ด
5.อุปกรณ์การเสพ จำนวน 2 ชุด
6. เครื่องชั่งดิจิตอล จำนวน 1 เครื่อง
7. ถุงพลาสติกใสชนิดกดปิดดึงเปิด ขนาด 5×7 ขนาดเดียวที่บรรจุยาบ้า จำนวน 80 ถุง แม็กกาซีน สีดำ จำนวน 1 อัน
คดีที่สาม จับกุมตัว นาย พงศ์ศักดิ์(สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปีโดยทำการแจ้งข้อกล่าวหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมหลักฐานนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายเจษฎาฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวสวยงาม สามารถดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาในพื้นที่ได้จำนวนมหาศาลในแต่ละปี การที่เราในฐานะเจ้าบ้านจึงจำเป็นต้องสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือน ทั้งความประทับใจ “ด้านความสุข” ที่เขาจะได้รับจากการท่องเที่ยว บริการที่อบอุ่น ในฐานะคนสุราษฎร์ฯ เมืองแห่งทะเล วัฒนธรรมอันงดงาม และผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ และ “ด้านความสงบสุข ปลอดภัย” ที่เราจะต้องร่วมกันสอดส่องดูแลพื้นที่อยู่เสมอ โดยเฉพาะข้าราชการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และตำรวจ ซึ่งเป็นที่พึ่งหลักของประชาชนต้องออกปฏิบัติการตรวจตราจัดระเบียบสังคมปราบปรามผู้มีอิทธิพลทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ได้เข้ามาคุกคามความสงบเรียบร้อยของพี่น้องชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวในพื้นที่ ป้องกันไม่ให้ก่อปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด รวมไปถึงการที่ต่างด้าวลักลอบทำงานโดยผิดกฎหมาย รวมไปถึงประกอบธุรกิจท่องเที่ยวโดยไม่มีใบอนุญาตที่ถูกต้อง ซึ่งอาจจะเข้ามาแย่งพื้นที่ในการประกอบอาชีพของพี่น้องคนไทยจากการใช้อิทธิพลเข้าข่มขู่ คุกคาม แทรกแซงอีกด้วย ในวันนี้ตนจึงอยากเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ยึดมั่น และยืนหยัดปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันอย่างแข็งขัน ไม่ย่อท้อ ไม่ลุ่มหลงในสิ่งผิด รวมทั้งขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนเข้ามาเป็นหูเป็นตาร่วมกันสอดส่องการขยายตัวของกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ พร้อมทั้งแจ้งเบาะแสให้แก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทันที หรือ ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ/จังหวัด โทรสายด่วน 1567 ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์จังหวัดสุราษฎร์ธานีให้อบอุ่น ปลอดภัยกับทุกคนมากที่สุด