หอก-ลูกธนู-มหาเศรษฐี

“ลูกธนูที่ปล่อยจากหน้าไม้ อันตรายน้อยกว่า หอกที่แทงมาจากข้างหลัง”

จากข้อความในหนังสือร้องเรียน เรื่องขอคัดค้านการปฏิบัติหน้าที่ของนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข กรรมการ ป.ป.ช. และขอตรวจสอบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ลงชื่อโดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ท้ายหนังสือฉบับนี้มีความยาว 3 หน้ากระดาษ

มีการอ้างอิงถึง “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

เป็นพยานรู้เห็น !!

ข้อความหลายส่วน ล้วนผูกเรื่องราว ของคนคนนึง ต้องการวิ่งเต้นเป็นกรรมการ ป.ป.ช. ต้องใช้ “บิ๊กโจ๊ก” เป็นสะพาน ผ่านบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกหลายคน ประเด็นสำคัญคือการขอเข้าไปพึ่งบารมี “ลุงป้อม” เพื่อสนับสนุนให้ได้ตำแหน่งที่ต้องการ

เรื่องนี้จริงหรือเท็จ ขึ้นอยู่กับตัวละครทุกคนในหนังสือฉบับนี้

รวมทั้ง “ลุงป้อม” ที่ถูกแอบอ้างเป็นพยาน ต้องรอคำชี้แจงจากปากลุงแก

หลายกรรม หลายวาระ ในเรื่องราวที่มีทั้งตัวละครและพฤติกรรม ส่อเค้าเป็นภาพลบของกระบวนการสรรหากรรมการ ป.ป.ช.

ความเน่าเฟ๊ะ ที่มิควรค่าแก่การจดจำ

เรื่องนี้ประชาชนทั่วไปตกใจ แม้แต่สื่อทุกสำนักยังสะดุ้ง

“อิหยัง อีกวะนี่”

แต่สิ่งนึงที่คาใจ และสงสัยขึ้นสมอง ของ “คาดเชือก” นั่นก็คือ…..ข้อความบางตอนในหน้าแรก กับสถานที่นัดพบระหว่างผู้ถูกร้อง กับผู้ร้องเรียนได้นัดพบกันโดยมี นาง “ร.” เป็นคนกลาง เพื่อนร่วมรุ่น วปอ. รุ่นเดียวกันทั้งหมด ไปเจอกัน

สถานที่นี้ก็คือ 98 ไวเลส คอนโดมิเนียม ถ.วิทยุ เพลินจิต กทม.

เป็นสถานที่ตามภาพประกอบ

ถือเป็นคอนโดมีเนียมเลิศหรู ใจกลางเมืองหลวง ที่ราคาแพงหูฉี่ ใคร ?? ซื้อไว้ครอบครอง จะต้องมีเงินมากมายเหลือใช้ จัดเป็นมหาเศรษฐี

สนุนราคาขาย ตารางเมตรละ 500,000 บาทถึง เกือบ 1 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับวิวทัศย์ของห้อง

ราคาห้องๆ นึง เริ่มที่ กว่า 100 ล้านบาท ไปจนถึงเกือบ 150 ล้านบาท

ความสงสัยอุบัติขึ้นทันที

ใคร ?? เป็นเจ้าของห้องที่นัดเจอกัน งานเข้าละสิแบบนี้

อยากคลายข้อสงสัยเรื่องนี้ หากมีผู้รู้จริง ช่วยหาคำตอบให้ที

รวยๆ กันแล้ว ไม่น่าพุ่งหอกมาเสียบหลังกันเลย พูดไปต้องเอ๊ะ “ลุงป้อม” เจ็บหลังไม๊

เป็นห่วง.

อิทธิเดช ลุย