ขุมกำลังปราบโจร (1)
นึกถึงมือปราบนักสืบยุคโบราณ
พล.ต.ต.ไอยศูรย์ สิงหนาท อดีต ผบก.ประจำ บช.ตชด. เขียนมาเล่าว่า ไม่ต้องย้อนไปไกลนัก เดี๋ยวจะไม่รู้จัก เอาแค่สมัย พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีต พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรักษ์พล.ต.ท.ทวี ทิพย์รัตน์ มาถึงยุค พล.ต.อ.กาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา พล.ต.ต.ปรีชา ธิมามนตรี พล.ต.ต.วีระศักดิ์ มีนะวาณิชย์ พ.ต.อ.ประมวลศักดิ์ ศรีสมบุญ พ.ต.อ.บรรดล ตัณฑ์ไพบูลย์ และอีกหลากหลายท่าน
เจ้าตัวขออภัยไม่อาจเอ่ยนามได้ครบถ้วน และมองว่า ในการสืบสวนหาพยานหลักฐานเพื่อมัดตัวผู้กระทำความผิดล้วนแล้วแต่ใช้ “ฝีไม้ลายมือ” ของตัวเองและทีมงาน ไม่ว่าจะเป็นการแกะรอย การสอบขยายผล การชุ่มโป่ง รวมทั้งต้องเก่งต้องแม่นในข้อกฎหมายเวลาเบิกความชั้นศาล
เมื่อโลกยุคปัจจุบัน วิทยาการก้าวหน้าเทคโนโลยีก้าวไกลเกิดกลุ่ม “คนหัวใสไร้คุณธรรม” นำมาใช้เป็นเครื่องมือในการประกอบอาชญากรรม เช่นการพนันออนไลน์ โรแมนซ์สแกม ขายสินค้าไม่ตรงปก แก๊งคอลเซ็นเตอร์
แต่ตำรวจยังคงมีอำนาจหน้าที่หากลยุทธ์ ยุทธวิธีขับเคี่ยวจัดการกับแก๊ง “พวกเดนคน” เหล่านี้
ตั้งหน่วยงานต่างๆ ขึ้นไว้ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ตลอดจนป้องกันปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว สร้างชื่อเสียงในการทำงานไว้
นอกจากนี้ยังมีอาชญากรรมที่เกี่ยวกับชีวิตร่างกายและทรัพย์สิน แก๊งวัยรุ่นวัยคะนอง นักศึกษาต่างสถาบันยกพวกตีกัน เกิดขึ้นทุกหัวระแหง ทุกเมืองท่องเที่ยว ทุกที่ชุมชน ทุกแหล่งเศรษฐกิจไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวัน หรือ กลางคืน
หากทว่าตำรวจไม่ใช่พระพรหมสี่หน้า พระนารายณ์สี่กร.
สหบาท