ข่าวประชาสัมพันธ์

ปลัด มท. เผยยอดลงทะเบียนหนี้นอกระบบครบ 62 วัน มูลหนี้ 9,361 ลบ. ลงทะเบียนกว่า 1.37 แสนราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 10,036 ราย


1 กุมภาพันธ์ 2024, 9:08 น.

 

ปลัด มท. เผยยอดลงทะเบียนหนี้นอกระบบครบ 62 วัน มูลหนี้ 9,361 ล้านบาท ประชาชนลงทะเบียนแล้วกว่า 1.37 แสนราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จแล้ว 10,036 ราย มูลหนี้ลดลงกว่า 618 ล้านบาท เน้นย้ำ “หนี้นอกระบบ” ขัดต่อกฎหมายทุกกรณี มุ่งมั่นร่วมกับทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบตามนโยบายของรัฐบาลให้สำเร็จเกิดผลเป็นรูปธรรม โดยเปิดรับลงทะเบียนถึง 29 กุมภาพันธ์ 2567 นี้

 

 

วันนี้ (31 ม.ค. 67) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงการลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เป็นวันที่ 62 นับตั้งแต่เปิดลงทะเบียนเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2566 เป็นต้นมา โดยจากข้อมูลของสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง เมื่อเวลา 15.00 น. มีมูลหนี้รวม 9,361.348 ล้านบาท ประชาชนลงทะเบียนแล้ว 137,019 ราย เป็นการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ 115,761 ราย และการลงทะเบียน ณ ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ 21,258 ราย รวมจำนวนเจ้าหนี้ 105,050 ราย มีพื้นที่/จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด 5 ลำดับแรก

1. กรุงเทพมหานคร ยังคงมากที่สุด มีผู้ลงทะเบียน 11,086 ราย เจ้าหนี้ 7,624 ราย มูลหนี้ 828.208 ล้านบาท

2. จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้ลงทะเบียน 5,605 ราย เจ้าหนี้ 5,111 ราย มูลหนี้ 379.240 ล้านบาท

3. จังหวัดสงขลา มีผู้ลงทะเบียน 5,085 ราย เจ้าหนี้ 3,992 ราย มูลหนี้ 333.125 ล้านบาท

4. จังหวัดนครราชสีมา มีผู้ลงทะเบียน 4,804 ราย เจ้าหนี้ 3,605 ราย มูลหนี้ 392.300 ล้านบาท

5. จังหวัดขอนแก่น มีผู้ลงทะเบียน 3,589 ราย เจ้าหนี้ 2,972 ราย มูลหนี้ 310.134 ล้านบาท

 

 

ขณะที่จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนน้อยที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่

1. จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีผู้ลงทะเบียน 221 ราย เจ้าหนี้ 231 ราย มูลหนี้ 14.023 ล้านบาท

2. จังหวัดระนอง มีผู้ลงทะเบียน 307 ราย เจ้าหนี้ 221 ราย มูลหนี้ 20.818 ล้านบาท

3. จังหวัดสมุทรสงคราม มีผู้ลงทะเบียน 363 ราย เจ้าหนี้ 281 ราย มูลหนี้ 13.126 ล้านบาท

4. จังหวัดตราด มีผู้ลงทะเบียน 440 ราย เจ้าหนี้ 329 ราย มูลหนี้ 20.074 ล้านบาท และ

5. จังหวัดสิงห์บุรี มีผู้ลงทะเบียน 467 ราย เจ้าหนี้ 344 ราย มูลหนี้ 23.725 ล้านบาท

 

 

“สำหรับข้อมูลการไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบทั่วประเทศพบว่า มีลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยแล้ว 17,012 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 10,036 ราย มูลหนี้ของลูกหนี้ก่อนไกล่เกลี่ย 1,647.801 ล้านบาท หลังการไกล่เกลี่ย 1,029.436 ล้านบาท มูลหนี้ลดลง 618.365 ล้านบาท และจังหวัดที่สามารถนำลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยได้มากที่สุดยังคงเป็นจังหวัดนครสวรรค์เช่นเดิม โดยมีลูกหนี้ที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย 3,116 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 267 ราย มูลหนี้ของลูกหนี้ก่อนไกล่เกลี่ย 249.446 ล้านบาท หลังการไกล่เกลี่ย 23.294 ล้านบาท ทำให้มูลหนี้ของพี่น้องประชาชนในจังหวัดนครสวรรค์ลดลง 226.152 ล้านบาท สำหรับกรณีที่ไม่ได้รับความร่วมมือกระทั่งไม่สามารถดำเนินการไกล่เกลี่ยได้ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการส่งสำนวนแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจในพื้นที่ มีการดำเนินคดีไปแล้ว 198 คดี ใน 31 จังหวัด” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงต้น

 

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยังกล่าวอีกว่า กระทรวงมหาดไทยได้เชิญชวนให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากหนี้นอกระบบมามาลงทะเบียนทั้งทางระบบออนไลน์และออนไซต์ ณ ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ และสำนักงานเขตกรุงเทพมหานครทุกแห่ง ปัจจุบันมียอดผู้มาลงทะเบียนเป็นจำนวนมากซึ่งหากมองถึงการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ถือว่ามีผลเป็นที่น่าพอใจ เพราะเราสามารถจูงใจให้พี่น้องประชาชนมาร่วมลงทะเบียนได้มากกว่าแสนราย ซึ่งทุกฝ่ายได้บูรณาการการทำงานกันอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอทุกอำเภอทั่วประเทศ รวมถึงท่านผู้อำนวยการเขตในกรุงเทพมหานครทุกเขต ได้บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็น ตำรวจ อัยการ หน่วยงานสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ธนาคารออมสิน ธนาคาร ธกส. ทุกส่วนล้วนแล้วแต่ช่วยกันอย่างเต็มที่ เพื่อให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทันที

 

“สำหรับการเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยถือว่ายังไม่สิ้นสุด แม้ว่าขณะนี้ยังมีจำนวนผู้เข้าสู่กระบวนการยังน้อย เพราะต้องใช้เวลาในการนำทั้งลูกหนี้และเจ้าหนี้มาคุยกัน โดยหลังจากที่ประชาชนมาลงทะเบียนแล้ว ทางกระทรวงมหาดไทยจะมีการดำเนินการภายใน 15 วัน โดยเชิญเจ้าหนี้และลูกหนี้มาไกล่เกลี่ยพูดคุยกัน เพื่อหาข้อตกลงร่วมกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งมีหลายกรณีที่ทางจังหวัดและอำเภอพบเจอ คือ ความไม่ชัดเจนของข้อมูลส่วนตัวของเจ้าหนี้นอกระบบ เช่น ชื่อสกุล ที่อยู่ เบอร์ติดต่อ เป็นต้น ซึ่งบางรายเป็นชื่อเล่นหรือนามแฝง ดังนั้น เมื่อข้อมูลไม่ครบจึงต้องส่งข้อมูลไปตรวจสอบที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยได้มีการประชุมหารือร่วมกับผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้แทนกระทรวงการคลัง และผู้แทนหน่วยงาน ซึ่งในการประชุมเราได้หยิบยกประเด็นดังกล่าวมาปรึกษาหารือและมีแนวทางว่าให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอสืบสวนสอบสวนข้อมูลจากลูกหนี้เองอีกทางหนึ่งด้วย โดยพบว่าเจ้าหนี้นอกระบบได้จ้างวานกลุ่มแก๊งหมวกกันน็อคเป็นคนมาปล่อยเงินกู้ ซึ่งคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นคนในท้องที่ ประกอบลูกนี้เองก็ไม่เคยไปพบเจอกับเจ้าหนี้ตัวจริง จึงเชื่อได้ว่าเป็นการปล่อยเงินกู้นอกระบบแบบมืออาชีพ” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว

 

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงมหาดไทยได้ส่งข้อมูลไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหนี้นอกระบบที่ไม่มีข้อมูลแน่ชัด แต่น่าจะมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง เพราะต้องติดต่อกับลูกหนี้นอกระบบเป็นประจำ เพื่อมาเก็บทวงหนี้กับลูกหนี้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ขยายผลจากลูกน้องไปยังเครือข่ายเจ้าหนี้ต่อไป นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งรายชื่อลูกหนี้นอกระบบที่มีพฤติกรรมข่มขู่ลูกหนี้ เพื่อให้กระทรวงมหาดไทยโดยผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ดำเนินการต่อไป ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังได้ประสานเสนอเรื่องการปล่อยกู้ในระบบจากธนาคารออมสิน และ ธกส. เพื่อที่จะให้ลูกหนี้นอกระบบที่ผ่านกระบวนการไกล่เกลี่ยแล้วได้มีแหล่งเงินไปใช้หนี้เจ้าหนี้นอกระบบ โดยกระทรวงมหาดไทยได้ร้องขอให้พิจารณายกเว้นหลักเกณฑ์การพิจารณาบางประการ เพื่อนำเข้าสู่หนี้ในระบบ อาทิ การปล่อยสินเชื้อกู้ยืมจากธนาคารออมสิน ร้อยละ 5 เป็นต้น

 

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของการดำเนินคดีกว่า 198 คดี ใน 31 จังหวัด หมายถึง เจ้าหนี้นอกระบบเข้ามาสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยแล้วไม่ยอมดำเนินการตามอัตราดอกเบี้ยที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ยินยอมตกลงกัน ก็จะต้องดำเนินคดี รวมถึงผู้ที่ขู่กรรโชกและไปทำร้ายหรือทำลายทรัพย์สินของลูกหนี้ด้วย สิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจกับสังคมประการแรก คือ เจ้าหนี้นอกระบบทุกรายถือว่าทำผิดกฎหมายทุกคน เพราะไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบอาชีพการปล่อยกู้ อีกประการหนึ่ง คือ เก็บดอกเบี้ยแพงเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด แต่สังคมต้องอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เราจึงเชิญมาพูดคุยหารือกัน ถ้าไกล่เกลี่ยตกลงคุยกันได้ก็ให้ดำเนินการตามขั้นตอน หากตกลงกันไม่ได้ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งในส่วนของการจัด “ตลาดนัดแก้หนี้” เป็นการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ให้ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเข้ามาเป็นคนกลางช่วยเหลือ เพื่อทำให้ได้รับการปรับปรุงหนี้ โดยเชิญทั้งภาครัฐและภาคเอกชนทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นทั้งตำรวจ อัยการ จัดหางาน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมถึงธนาคารออมสิน ธกส. เพื่อมาช่วยกันหาแนวทางให้พี่น้องประชาชนไม่ต้องกลับไปเป็นหนี้นอกระบบอย่างเป็นรูปธรรม และมีแนวทางไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน โดยจัดกิจกรรมขึ้น อย่างน้อยเดือนละ 4 ครั้ง

 

กระทรวงมหาดไทยยังคงเปิดรับลงทะเบียนพี่น้องประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบ ทั้งทางระบบออนไลน์ที่  https://debt.dopa.go.th หรือลงทะเบียนได้ ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือสำนักงานเขตทั่วประเทศ โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย

 

ข่าวในหมวดเดียวกัน

เพิ่มเติม...

การเมือง

คอลัมนิสต์

คมในความ

มหาราษฎร์ Shorts

ภาพเก่าเล่าอดีต

ไฮไลท์

ข่าวประชาสัมพันธ์

ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

ท่องเที่ยว

ศาสนา

สุขภาพ

แวดวงนักรบ

สังคม

บทบาทบุคคล

< กลับหมวดข่าวประชาสัมพันธ์

เรื่องล่าสุด