<วันเด็ก>
วันเด็กแห่งชาติ เป็นวันที่เด็ก ๆ ทั่วประเทศรอคอยให้มาถึง เพราะเป็นวันของพวกเขาที่พ่อ แม่ ผู้ปกครองจะพาไปเที่ยว ไปชมสถานที่ต่างๆ ไปนั่งรถถัง ไปจับปืนใหญ่ ไปขี่เครื่องบิน ไปเล่นเกม ไปทายปัญหา ไปรับของแจก ไปกินไอติม ไปแข่งขันท่องคำขวัญวันเด็ก
คำขวัญวันเด็กที่ผมประทับใจคือ
<จงทำดี มีศีลธรรม ถือความสัตย์>
<เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ>
วันเด็ก จึงเป็นวันแห่งความสุขของเด็ก ๆ จริง ๆ
เมื่อ ปี พ.ศ. 2509 ผมเรียนอยู่ชั้น ป.6 ครูประจำชั้นชื่อ คุณครู อรศรี ทองโสม สอนวิชาภาษาไทย ครูเคยพูดในห้องว่า
<วิชาหลักภาษาไทยเป็นวิชาที่ยากมากถ้าใครสอบได้คะแนนเต็มครูจะ..…>
ผลการสอบวิชานี้ ผมได้ 20 คะแนนเต็มคนเดียวในชั้นเรียน ปลื้มใจมากครับที่ครูชมเชย
ในช่วงวันเด็ก จะมีหนังสือวันเด็กมาขายเล่มละ 2 บาท ผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือ ทั้งหนูจ๋า เบบี้ และนวนิยายกำลังภายใน รวมทั้งหนังสือวันเด็ก
เก็บออมเงินค่าขนมล่วงหน้าก่อนถึงวันเด็ก วันละ 1 สลึง 8 วัน ได้ 8 สลึง ครบ 2 บาทพอดี ผมซื้อหนังสือวันเด็กมาอ่านอย่างเบิกบานใจ เพราะมีข้อเขียนที่ให้คติในการเป็นคนดีมากมาย
ผมอ่านเจอบทกวี เขียนเป็นกาพย์ยานี โดยฐปนีย์ นาครทรรพ ตอนนั้น ผมยังเขียนบทกวีไม่เป็น แต่อ่านเป็น พอเริ่มอ่านไปบรรทัดแรกผมรู้สึกประทับใจขึ้นมาทันที ผมอ่านช้า ๆ อ่านในใจ และบทกวีนั้นก็อยู่ในใจผมมาจนถึงทุกวันนี้
<ชายหนึ่งมีบิดา ซึ่งชราเพลียสังขาร
หมดแรงการทำงาน กิจการบ้านช่วยไม่ไหว
ชายนั้นเห็นเกะกะ ก็คิดจะกำจัดไกล
จึงขูดกะลาให้ แล้วส่งพ่อไปขอทาน
อยู่มาลูกของตัว นั่งเล่นหัวเงียบอยู่นาน
จึงถามอย่างอ่อนหวาน ว่าลูกจ๋าเล่นอะไร
ลูกตอบเล่นกะลา ขูดแล้วทาน้ำมันไว้
ยามเมื่อพ่อแก่ไป จะส่งพ่อไปขอทาน>
ซาบซึ้งไปกับการสอนด้วยกลเกมกวีไหมครับ <ทำอย่างไร ได้อย่างนั้น> <ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น>
สำหรับผม ชอบมาก เสียดายย้ายบ้านบ่อยหนังสือหายหมด ยังดีที่เนื้อหาไม่หาย เพราะมันอยู่ในใจของผมเสมอถึงจะล่วงเลยมาถึง 58 ปีแล้วก็ตาม
สุขสันต์วันเด็กครับ
พล.ต.ต.ไอยศูรย์ สิงหนาท