<รมต. กับ รอง ผบก.>
ปี พ.ศ. 2550 ผมเป็นรอง ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี อุบลฯ เป็นจังหวัดใหญ่ มี ส.ส. สิบกว่าคน มาจากสี่พรรคการเมือง เคยเป็น รมต. กันหลายคน
วันหนึ่ง ในปี พ.ศ. 2552 ผบก. ให้ผมเป็นตัวแทน ไปพบกับ รมต. คนหนึ่ง ณ ที่ทำการพรรค ตั้งอยู่กลางเมืองอุบลฯ
ในห้องโถงนั้น มีบุคคลหลากหลายอาชีพ มากหน้าหลายตา ที่สังเกตุเห็น มีนายตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชาผมหลายคน ทราบว่ารู้จักเป็นการส่วนตัวกับ รมต. นายทหาร ฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น หัวคะแนน มีครบ
เมื่อ รมต. มานั่งที่เก้าอี้หน้าโต๊ะกลางห้องโถง ก็พูดจาปราศรัย ทักทายทุกคน การพูดจาเป็นทำนอง ขอความร่วมมือในการทำงานร่วมกับภาคการเมือง เพื่อบริการประชาชนซึ่งเป็นสิ่งที่ดี
แต่ระหว่างพูด ๆ ไปนั้น มีครั้งหนึ่งมองมาทางผม แล้วพูดว่า <รองฯ ไอยศูรย์ ที่ผ่านมาก็เกือบโดนย้ายนะ> แล้วไม่พูดอะไรต่อ
ทั้งจังหวัดอุบลฯ ตำรวจรู้ดี ทหารรู้ดี ฝ่ายปกครองรู้ดี ท้องถิ่นรู้ดี ชาวบ้านร้านช่องรู้ดี ต่างก็รู้ดีว่า
ผมเป็นตำรวจที่ประสานกับมวลชนเสื้อหลากสี ทั้งแดง เหลือง และเขื่อนสิรินธร ได้ผลเป็นที่พอใจของทุกฝ่าย ทุกครั้ง จนกระทั่งมีนายตำรวจระดับเดียวกับผม พูดว่า <เมื่อไหร่พี่จะพลาดบ้างนะ ?>
การที่ รมต. พูดถึงผมสั้น ๆ แบบนี้ ก็คิดได้หลายมุมมอง
ผมอาจคิดว่า ตัวเองทำถูกต้อง แต่ก็อาจไม่ถูกใจบางคน
หรือว่าผมอาจจะทำไม่ถูกต้องและไม่ถูกใจเลยก็ได้ ก็แล้วแต่จะคิดกันไป
เพราะเวลาที่มีนักการเมืองระดับ นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี มาปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ ผมจะได้รับมอบหมายให้เป็นคนประสานกำหนดกรอบการชุมนุมให้กับกลุ่มมวลชน
ดังเช่นกรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นรม. ไปงานศพยายเนียม พันธุ์มณี ที่ อ.ม่วงสามสิบผมประสานมวลชน
<ไม่ควรมีการชุมนุม เพราะเป็นเรื่องวัฒนธรรมประเพณี>
มวลชนก็ไม่มีการชุมนุม
หรือตอนที่ นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข มาประชุม อสม. ที่ ม.ราชภัฏอุบลราชธานี ผมก็ประสานมวลชน
<ให้สามารถชุมนุมได้ โดยสงบแบบต่างคนต่างทำหน้าที่>
นายวิทยา ปฏิบัติภารกิจในห้องประชุมไพรพยอม ด้านนอกห้องประชุม แค่มีถนนในมหาวิทยาลัยกั้น กลุ่มมวลชนก็ชุมนุมกันไปโดยไม่มีเหตุรุนแรงหรือปะทะกันแต่อย่างใด
ย้อนกลับมาในห้องประชุม เมื่อมีช่วงโอกาสพูด ผมมองไปที่ รมต. พูดช้า ๆ แบบเน้นเสียง เน้นคำ ว่า
<ผมขอพูดตรง ๆ นะครับ ผมเป็น <ตำรวจ> ผมเป็นกลางทางการเมือง ผมไม่ฝักใฝ่ พรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่ง หรือนักการเมืองคนใดคนหนึ่ง ใครทำดี ผมก็ชื่นชม ใครทำไม่ดี ผมก็ไม่ชอบ
ผมออกพื้นที่ ไปพบปะและบรรยายเรื่องที่ควรรู้ให้ชาวบ้านฟังบ่อยๆ สมมติว่า ท่านทำความดี มีประโยชน์ต่อส่วนรวม ผมก็จะบอกชาวบ้านว่า ท่านทำดีเรื่องอะไร ? เป็นโชคดีของชาวบ้าน ที่มี ส.ส. ดี มี รมต. ดี อยู่ในพื้นที่
แต่ถ้าท่านทำไม่ดี ทำไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะ ถ้าท่านทำผิดกฎหมายอาญา ผมก็ต้องดำเนินคดีกับท่าน จับกุมท่าน
เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายครับ>
สิ้นเสียงพูดของผม รมต. มองมาที่ผม ทุกคนที่นั่งอยู่ ต่างก็มองมาที่ผม มีทั้งหันหน้า เหลียวหน้า กลับหลังหันมาดูหน้าผมก็มี
หน้าผมคงน่าดูไม่ใช่เล่น จึงได้สนใจกันขนาดนี้
ไม่มีเสียงพูด ไม่มีการเคลื่อนไหว ต่างคนก็คงต่างคิด
เพราะสิ่งที่ผมพูด คงไปกระทบความรู้สึกใครหลายคน หลายอาชีพที่พากันล้อมหน้าล้อมหลัง รมต. คนดัง
หลังจากการประชุมวันนั้นผมได้พบเจอกับ รมต. จนกระทั่งเป็นอดีต รมต. อีกหลายครั้ง ในหลายสถานที่ ท่านก็ยิ้มแย้มแจ่มใส ทักทายกันกับผมดี และยังเคยติดต่อขอให้ผมประสานกับมวลชนฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลช่วงที่ นายอภิสิทธิ์ นรม. ลงพื้นที่หลายอำเภอในอุบลฯ เพื่อหาเสียงเลือกตั้งด้วย
แบบช็อตต่อช็อต ชั่วโมงต่อชั่วโมง ตามสถานการณ์ที่พลิกแพลง เปลี่ยนแปลงไป ตลอดเวลา
สำหรับเรื่องที่ผม <เกือบโดนย้าย> <เป็นเรื่องจริง> ครับ
อยู่ในดุลยพินิจของผู้บังคับบัญชาไม่เกี่ยวกับการเมือง
<เมื่อเทวดาจะมาหมาก็จำต้องไป>
แต่บังเอิญหมาตัวนี้เห่าเสียงดัง ก็เลยได้อยู่ต่อ
ผมเป็น รอง ผบก. ที่อุบลฯ จนถึงปี พ.ศ. 2555 จึงได้ย้ายไปเป็น รอง ผบก. ภ.จว.ชัยภูมิ
พล.ต.ต.ไอยศูรย์ สิงหนาท