รีบแก้ซะก่อนโดน 157
ภายหลังจากเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. มีการประชุม ก.ตร. ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 14/2566 ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปี 2566
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเปิดประชุม ขอบคุณคณะกรรมการ ก.ตร. ที่ร่วมกันประชุม เพื่อพิจารณาเรื่องการบริหารงานบุคคลของข้าราชการตำรวจต่างๆ มุ่งเน้นที่จะให้ตำรวจมีขวัญ กำลังใจปฏิบัติหน้าที่ให้มีประสิทธิ์ภาพมากที่สุด เพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชน และประเทศชาติ ตลอดจนอวยพรปีใหม่ให้กับคณะกรรมการ ก.ตร. เนื่องในเทศกาลปีใหม่ 2566
วาระสำคัญเป็นเรื่องเพื่อพิจารณาในวาระที่ 4.3 เรื่องรายงานผลการดำเนินการตามมติ ก.ตร. กรณีที่ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ มีหนังสือลง 14 ธ.ค.2566 แจ้งว่า ตามที่ ก.ตร. ได้มีข้อสังเกตุให้ ตร. ไปพิจารณาดำเนินการแต่งตั้งผู้ร้องทุกข์ที่ได้รับผลกระทบจากการแต่งตั้งโยกย้ายกลับไปดำรงตำแหน่งในสังกัดเดิมจำนวน 96 รายนั้น และการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก. ลงมาถึง ส.ว. วาระประจำปี 2566 ได้เสร็จสิ้นเรียบร้อยไปแล้ว
จึงขอให้ ผบช.สง.ก.ตร. รายงานผลการดำเนินการดังกล่าวให้ที่ประชุมรับทราบต่อไป ผู้แทน ผบช.สกพ ได้รายงานว่า กลุ่มข้าราชการตํารวจที่มีข้อสังเกตุ 96 ราย ได้ย้ายกลับตามมติและข้อสังเกตุ 11 ราย ย้ายกลับไม่ตรงตามข้อสังเกตุ 16 ราย และไม่ได้ย้ายกลับตามข้อสังเกตุ 69 ราย
ประเด็นนี้ที่ประชุม ก.ตร. ได้มีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง พล.ต.อ.วินัยฯ พล.ต.อ.มนูฯ รศ.ดร.ปทิตฯ ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ และ ก.ตร.ทุกท่าน ได้ร่วมกันอภิปราย เพื่อให้ ตร. แก้ไขปัญหานี้ บรรเทาความเดือดร้อนให้ทั้ง 69 ราย ให้ได้ย้ายกลับไปในหน่วยเดิม หรือภูมิลำเนา หรือสับเปลี่ยนหมุนเวียนในหน่วยใหม่อย่างเหมาะสม ภาพรวมได้อภิปรายชี้ให้เห็นความพยายามของ ก.ตร. ชุดปัจจุบัน ที่มาจากการเลือกตั้งพยายามจะช่วยเหลือข้าราชการกลุ่มนี้มาโดยตลอด จากการถูกย้ายออกนอกหน่วยโดยไม่สมัครใจ ซึ่งไม่เป็นธรรม เมื่อวาระการแต่งตั้ง 2565 (ก่อน ตร. ชุดปัจจุปันมาปฏิบัติหน้าที่) ตำรวจได้รับความเดือดร้อนทั้งส่วนตัวและครอบครัวอย่างแสนสาหัส ย้ายไปหน่วยใหม่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดความเสียหายทางราชการอย่างร้ายแรง
พล.ต.อ.เอกฯ และ พล.ต.อ.วินัยฯ ได้อภิปรายและขอมติที่ประชุม ก.ตร.ให้บันทึกข้อสังเกตุให้ย้ายน้องๆ ที่ไม่มีเส้น ถูกย้ายเตะออกนอกหน่วย (นครบาล สตม.สอท.ภ.1/2/7 ฯลฯ) โดยไม่เป็นธรรมให้ได้ย้ายกลับ ซึ่ง พล.ต.อ.เอกฯ และ พล.ต.อ.วินัยฯ ต่างยืนยันว่า ถ้าจะต้องพูดเพื่อแสดงความคิดเห็นปกป้องช่วยเหลือให้ตำรวจได้รับความเป็นธรรม
พล.ต.อ.วินัยฯ ได้ติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ก่อนการแต่งตั้ง ได้ขออนุญาต “บิ๊กต่อ” ผบ.ตร. ไปหารือกับ พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รอง ผบ.ตร (บร.), ผบช.สกพ., ผบช.สง.ก.ตร. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ทุกหน่ายปฏิบัติตามมติและข้อสังเกตุ ก.ตร. แต่เมื่อคำสั่งออกมาทุกหน่วย ปรากฏว่าไม่มีการปฏิบัติตามมติ ก.ตร. จำนวนมากถึง 69 ราย โดยอ้างเหตุว่าหน่วยเดิมที่ให้ย้ายกลับ ไม่มีตำแหน่งรองรับ และอ้างเหตุผลอื่นๆ อีกมากมาย เป็นเหตุให้มีการไปร้องทุกข์ต่อ กพค.ตร. จำนวนมาก กรณีที่มีข้อสังเกตุ ก.ตร. และสมัครใจจับคู่ย้าย แต่ไม่ได้รับการพิจารณาหลายราย ที่ประชุม ก.ตร. ไม่อยากรอผลให้ กพค.ตร. วินิจฉัยแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ ควรเป็นหน้าที่ ตร. จะต้องแก้ไขปัญหานี้เอง
สรุป ก.ตร. มีมติให้ ตร. ดำเนินการแต่งตั้งโยกย้ายทั้ง 69 นาย ตามที่ ก.ตร. มีมติให้ข้อสังเกตุ โดยให้ย้ายกลับหน่วยเดิมหรือภูมิลำเนาหรือตำแหน่งที่เหมาะสมในหน่วยใหม่ และให้ดำเนินการแต่งตั้งกรณีสมัครใจจับคู่ย้ายให้เรียบร้อย
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้แสดงความเป็นสุภาพบุรุษ ในฐานะผู้นำองค์กร แสดงความรับผิดชอบที่จะไปดำเนินการเยียวยาทั้ง 69 ราย และกรณีสมัครใจจับคู่ย้ายให้เหมาะสมทันที เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับน้องๆตำรวจที่รอความเป็นธรรมได้ย้ายกลับบ้านสู่อ้อมอกของครอบครัว
ทั้งนี้อยู่ที่ตำรวจที่ได้รับผลกระทบและได้ไปร้องทุกข์ต่อ กพค.ตร. ไว้แล้ว จะต้องไปถอนคำร้องทุกข์ต่อ กพค.ตร. ในส่วนคอลัมน์ “คาดเชือก” ขออนุญาตแนะนำ หากกรณีการโยกย้ายเดิมของตำรวจทั้ง 69 ราย มีมูลการกระทำผิดอาญา หรือมีเจตนาพิเศษฯ โดยอาจเป็นการเล็งเห็นผล เช่น….เอาตำแหน่งของเขาไปใช้ประโยชน์อันมิชอบ
นำไปให้ลูกน้องใกล้ชิด หรือนำไปแลกเปลี่ยนเป็นผลโยชน์อันมิชอบ ควรแนะนำให้ข้าราชการตำรวจผู้เดือดร้อน ไปฟ้องศาลทุจริตฯ !! ลุยๆๆ ให้นายๆ ผู้เกี่ยวข้องโดนเอาผิด ม.157
หากมัวรอการพิจารณาของ กพค.ตร.
คงต้องใช้เวลาอีกนาน เชื่อเหอะ !!
กล้าๆ หน่อย นายๆ จะได้เข็ดหราบ
คงต้องจำกันไปอีกนาน.
อิทธิเดช ลุย
