DSI จับกุมโปรแกรมเมอร์และนักการตลาดเว็บไซต์ ดูทีวี มีเดีย ละเมิดลิขสิทธิ์รายการโทรทัศน์ของช่อง 7 จำนวน 592 รายการ มูลค่าความเสียหาย 2,809,255,221 บาท
เมื่อวันพุธที่ 15 พฤศจิกายน 2566 : กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ โดย นายยศสันธ์ เรืองสรรงามสิริ รองผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ร่วมกับศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้จับกุม นายชัชวิทย์ (ขอสงวนนามสกุล) ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2499/2566 และ นายจำเริญ (ขอสงวนนามสกุล) ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2502/2566 ลงวันที่ 7 สิงหาคม 2566 ผู้ต้องหาในคดีพิเศษที่ 58/2560 ซึ่งมีพฤติการณ์ เป็นผู้เริ่มดำเนินงานในกลุ่มธุรกิจให้บริการดูรายการโทรทัศน์ของช่อง 7 สี ตั้งแต่เป็นนิติบุคคลดูทีวี ลิมิเต็ด ในสหราชอาณาจักร จนขยายกิจการไปเป็นบริษัท ดูทีวี มีเดีย จำกัด บริษัท โก ไทย เซ็นเตอร์ จำกัด และนิติบุคคล ไทย มีเดีย เวิร์ค แอลแอลซี USA โดยนายจำเริญฯ ทำหน้าที่เป็นโปรแกรมเมอร์ ดูแลงานด้านการตัดต่อ การแปลงข้อมูล การส่งข้อมูลไปเก็บไว้ที่เครื่องแม่ข่าย ส่วนนายชัชวิทย์ฯ ทำหน้าที่ควบคุมดูแลงานด้านการตลาดและการวางแผนกลยุทธ์ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยผู้ต้องหาทั้งสองรายได้เปิดบัญชีระบบเพย์แพลในชื่อของตนเพื่อใช้รับโอนเงินปันผลประโยชน์จากธุรกิจเว็บไซต์ ดูทีวีดอทคอม (www.dootv.com) และเว็บไซต์ไทยฟลิกซ์ดอทคอม (www.thaiflix.com)
ในคดีพิเศษดังกล่าวข้างต้น กรมสอบสวนคดีพิเศษได้สืบสวนสอบสวนน่าเชื่อว่าบริษัท ดูทีวี มีเดีย จำกัด กับพวก ได้ละเมิดลิขสิทธิ์ในงานโสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์และงานแพร่เสียงแพร่ภาพของบริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด หรือสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 โดยการทำซ้ำ ตัดต่อ และนำข้อมูลในรูปแบบรายการโทรทัศน์ที่แพร่เสียงแพร่ภาพผ่านทางช่อง 7 สี อาทิเช่น รายการร้องแลกไข่ ละครหักเหลี่ยมรัก นางสาวส้มหล่น ฯลฯ และบนเว็บไซต์ดูทีวีดอทคอม (www.dootv.com) และเว็บไซต์ไทยฟลิกซ์ดอทคอม (www.thaiflix.com) ซึ่งมีการเผยแพร่ทั้งในและต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีการเรียกเก็บค่าสมาชิกจากลูกค้า ทั้งยังมีการตั้งสำนักงานหลายแห่งในประเทศไทย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา เพื่อดำเนินธุรกิจดังกล่าว รวมจำนวนรายการละคร ฯลฯ ที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ฯ มีจำนวนทั้งหมด 592 รายการ คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย จำนวน 2,809,255,221 บาท (สองพันแปดร้อยเก้าล้านสองแสนห้าหมื่นห้าพันสองร้อยยี่สิบเอ็ดบาท) เป็นคดีพิเศษที่ 58/2560 เหตุเกิดขึ้นในช่วงประมาณเดือนมีนาคม 2558 ถึงประมาณเดือนสิงหาคม 2561 และก่อนหน้านี้ได้จับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็นผู้บริหารบริษัท ดูทีวี มีเดีย จำกัด จำนวน 2 ราย เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2566 ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว