ผู้มีอำนาจ กับ ยาเสพติด
ผมไม่เปิดดูความหมายของคำว่า <ยาเสพติด> ทั้งในตัวบทกฎหมาย และในพจนานุกรม เอาความจริงล้วน ๆ มาเป็นความหมาย
<ยาเสพติด> คือ<ยา>หรือวัตถุมีพิษ ต่อจิต ประสาท ที่<เสพ>ไม่ว่าจะโดยการกิน ดื่ม สูบ ฉีด ดมแล้วมีอาการ<ติด> ต้องการเสพอีก
ยาเสพติดมีมากมายหลายชนิด ที่รู้จักกันมาแต่โบราณกาล ก็เช่น กัญชา ฝิ่น ต่อมาก็มีพัฒนาการอันชั่วช้าสามานย์มาเป็น เฮโรอีน เค อี ไอซ์ พืชกระท่อม และยาบ้า ฯลฯ
มีกฎหมายบัญญัติออกมา เพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เป็นการเฉพาะ
คนทั้งโลก ใคร ๆ ก็รู้ว่า ยาเสพติด มันเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้เสพ เอาเฉพาะที่บ้านเมืองเรา เมายาแล้วอาละวาด ปีนเสาไฟฟ้า หลังคาตึก ใช้อาวุธจี้ตัวประกัน ทำร้ายร่างกายพ่อแม่ ลูกเมีย ญาติพี่น้อง คนอื่น ๆ หรือทำการประทุษร้ายต่อทรัพย์ ฯลฯ เพราะครองสติไม่ได้ มันหลอกมันหลอนจนเลอะเลือนไปหมด
ก็เหตุไฉนใยเล่า ผู้ที่มีอำนาจบริหารบ้านเมืองในแต่ละยุคแต่ละสมัยจึงหันไป<เอาใจ>ผู้เสพยาเหล่านั้นมากนัก มากจนเกินเหตุ เกินงาม
รัฐบาลสมัยหนึ่ง ได้มีแนวนโยบายว่า<ผู้เสพคือผู้ป่วย>แต่ถ้ามีเอาไว้ในความครอบครองเพื่อเสพก็ต้องโดนดำเนินคดีไป
ถ้าผู้เสพคือผู้ป่วย แล้วผู้ป่วยอาละวาดมั้ย ? เป็นอันตรายต่อบุคคลอื่นหรือไม่ ?
ก็อาละวาดเหมือนเดิม เป็นอันตรายต่อบุคคลอื่นเหมือนเดิม
เอาตัวไปบำบัดออกมาก็เสพใหม่หมุนเวียนอยู่เช่นนี้
หรือว่า งบประมาณเพื่อการบำบัดมันเยอะมาก ? จนต้องหมุนเวียนบำบัด
อีกรัฐบาลหนึ่ง เมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็ถอน<พืชกระท่อม>ออกจากบัญชียาเสพติดแถมด้วย<กัญชาเสรี>
สนุกสนานกันบานตะไทละ ตลอดสองข้างทาง มีใบกระท่อม น้ำใบกระท่อม วางขายกันกลาดเกลื่อน บางแห่ง ยกระดับการเสพ ทำเป็นคล้าย ๆ บาร์ หรือสถานบริการ สำหรับเสพพืชกระท่อมโดยเฉพาะ
พ่อแม่ ผู้ปกครอง หาลูกหลานไม่เจอ ไม่ไปโรงเรียน ไปถามครู ก็ไม่รู้ว่าลูกหลานอยู่ที่ไหน ?
ไปถามตำรวจได้เรื่องเลยคราวนี้ ตำรวจตรวจสอบตามสถานที่ต่าง ๆ ก็ไปเจอว่า มั่วสุมเสพใบกระท่อม น้ำกระท่อม ในสถานที่บริการเสพกระท่อม
พ่อแม่ ผู้ปกครอง สุดแสนจะระกำช้ำใจ ที่เห็นสภาพลูกหลานมามั่วสุมเสพกระท่อมเช่นนั้น
ส่วน<กัญชาเสรี>ก็ส่งเสริมการปลูกกันทั่วบ้านทั่วเมือง อ้างว่าเป็นยา ทำให้อารมณ์ดี มีการเสพโชว์ด้วย
แต่ถูกกระแสสังคมตี จึงได้มีหลักเกณฑ์ใหม่ ให้เน้นไปทางการแพทย์ ยังดีที่ไหวตัวทัน
ทั้งพืชกระท่อม และกัญชา เมื่อเสพเข้าไปแล้วมันออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทจึงได้ถูกกำหนดให้เป็นยาเสพติดชนิดหนึ่ง
จู่ ๆ ผู้มีอำนาจ นึกอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ ถอนออกจากบัญชียาเสพติดหน้าตาเฉย
ถามว่า ถอนแล้ว เมื่อเสพเข้าไปมันจะไม่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทหรืออย่างไร ?
ตำรวจก็หวานอมขมกลืน เมื่อผู้มีอำนาจในบ้านเมืองถอนพืชกระท่อม กัญชา ออกจากบัญชียาเสพติดไปแล้วจะทำอย่างไรได้ เพราะอำนาจหน้าที่มี ก็เท่าที่กฎหมายให้ไว้
ล่าสุด มาอีกแล้ว ท่านผู้มีอำนาจกำลังจะออกกฎเกณฑ์ใหม่ มี<ยาบ้า>ไว้ในครอบครอง ไม่เกิน 10 เม็ด<ถือว่าเป็นผู้เสพ>ไม่ถือว่ามีไว้ในครอบครอง ซึ่งจะต้องถูกจับกุม
<เป็นการส่งเสริมการเสพยาบ้าอย่างจริงจัง>
เอาสมองส่วนไหนมาคิด ? ต่อไป คงเห็นคนเมายาบ้า กันทั่วบ้านทั่วเมือง
สังคมจะเสื่อมทราม ประชาชนจะสุขภาพทรุดโทรม อารมณ์จะวิปริต อาชญากรรมจะเกิดขึ้นอีกมากมายหลายเท่าตัว จากกลุ่มคนที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เพราะเสพยาเสพติดบางอย่างได้ตามกฎหมายนั่นเอง
นา ๆ อารยประเทศต่างก็มีกฎหมาย มาตรการที่เข้มข้นในการป้องกัน ปราบปรามยาเสพติด
ประเทศนี้ ที่พวกเรารักเล่า ทำไมทำตรงกันข้าม ? กลับส่งเสริม สนับสนุนการเสพ การครอบครอง การผลิต ยกเลิกขึ้นบัญชียาเสพติดบางประเภทกันอย่างโจ๋งครึ่ม
ไม่ว่าท่านผู้มีอำนาจ ในบ้านนี้ เมืองนี้ จะออกกฎเกณฑ์ หลักการ วิธีการ ไว้อย่างไร ? ในการมียาบ้าไว้ในครอบครองไม่เกิน 10 เม็ด ให้ถือว่าเป็นผู้เสพ
ไม่ว่าท่านจะทำเพื่อนายทุน ? เพื่อฐานเสียง ? เพื่อคนติดยาบ้า ? หรือเพื่อใคร ?
ผมขอแสดงความเห็น<ไม่เห็นด้วย>
ขอเรียกร้องให้ยกเลิกนโยบาย แนวคิด ในเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด
หันมาส่งเสริมสุขภาพ สติปัญญา ความมีวินัย ของพี่น้องประชาชนดีกว่า
<กรรม>เป็นเครื่องชี้เจตนา นี่คือ<ภาษากฎหมาย>
<กัมมุนา วัตตติ โลโก>สัตว์โลกทั้งหลาย ย่อมเป็นไปตามกรรม นี่คือ<ภาษาธรรม>
ระวังลูกหลาน ญาติมิตร บริวารของท่าน จะติดยาเสพติด
ท่านก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากแล้วยังไม่รู้อีกหรือว่า
<กฎแห่งกรรม ยุติธรรมเสมอ>
<ป.ล.>ขออภัย พันธมิตรของพืชกระท่อมและกัญชา ผมเป็นห่วงพวกท่านจากใจจริง
ส่วนยาบ้าลงนรกไป
พล.ต.ต.ไอยศูรย์ สิงหนาท