การโยกย้ายข้าราชการระดับซี 11 ของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ผ่าน มติ ครม.
ในวันนี้ เป็นที่วิพากษ์ วิจารณ์กันไปหลากหลาย แต่ถ้าพินิจพิเคราะห์ถึงเนื้อในที่ไปที่มาอย่างถ่องแท้ ต้องยอมรับในความเป็นผู้นำ มีวิสัยทัศน์กล้าตัดสินใจ ของท่าน รมว.ศธ. พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ที่ได้จัดวางคนตรงกับงาน ตามความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ โดยเริ่มจาก
1. นายสุเทพ แก่งสันเที๊ยะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีอาวุโสสูงสุด และเคยเป็น ผอ.สำนักอำนวยการ สำนักปลัดกระทรวง และทำหน้าที่หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี และรองศึกษาธิการภาค รักษาการในตำแหน่งศึกษาธิการภาค จึงมีความเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนกระทรวงศึกษาธิการ
2. ว่าที่ ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา ในตำแหน่งเลขา กพฐ. ถือว่าเป็นลูกหม้ออย่างแท้จริง เริ่มตั้งแต่ ผอ.สำนักนโยบายและแผน ผู้ช่วยเลขาธิการ สพฐ. และรองเลขาธิการ สพฐ.ก่อนขึ้นระดับ 11 ที่ สอศ. ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะหวนมาวัดฝีมือในการพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน
3. นายอรรถพล สังขวาสี เลขาธิการสภาการศึกษา ที่ลุกมาจากปลัดกระทรวงศึกษาธิการที่ย้อนกลับมาทำหน้าที่เดิมอีกคำรบ เป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในเนื้องานเพื่อสานต่อ พรบ.การศึกษาแห่งชาติ อันเป็นกุญแจสำคัญในการปฏิรูปการศึกษา
4. นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เคยทำหน้าที่ด้านบริหารงานบุคคล ใน กคศ. และรองเลขาธิการ คณะคณะกรรมการการอาชีวศึกษา แม่นระเบียบ ยึดการพัฒนาคน เป็นหัวใจสำคัญ จึงถูกฝาถูกตัวที่จะมาพัฒนาเยาวชนในด้านอาชีพ
ที่กล่าวมานี้จึงขอสนับสนุน และชื่นชมท่าน รมว.ศธ อย่างเต็มที่ในการแต่งตั้งครั้งนี้เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา และส่งเสริมให้เยาวชนคนไทย จับมือไว้และไปด้วยกัน เพื่อให้นักเรียนทุกคน เรียนดี มีความสุข เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน