คต. เผยผลสำเร็จต่อยอดงานวิจัยจากหิ้งสู่ห้าง พร้อมยกระดับสินค้าเกษตรไทยให้เข้มแข็งในเวทีโลก
กรมการค้าต่างประเทศ (คต.) แถลงความสำเร็จการจัดงาน “Agri Inno-Tech Xchange 2023” ดีลเจรจาจับคู่ธุรกิจงานวิจัยระหว่างนักวิจัยกับผู้ประกอบการคึกคักกว่า 100 คู่เจรจา เกิดมูลค่าการซื้อขายงานวิจัยกว่า 12 ล้านบาท เล็งเป้าสร้างกลไกการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรไทยและสร้างโอกาสผู้ประกอบการไทยผงาดในเวทีโลก
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจงานวิจัย (Innovation Matching) ซึ่งเป็นงานยิ่งใหญ่ประจำปีที่เปิดโอกาสให้มีการเชื่อมโยงระหว่างนักวิจัยและผู้ประกอบการสินค้าเกษตรนวัตกรรมไทยได้พบปะแลกเปลี่ยนความรู้และสรรหางานวิจัยมาต่อยอดให้สินค้าเกษตรได้มีนวัตกรรมพร้อมสร้างมูลค่าทางการค้าแบบก้าวกระโดด ภายใต้ชื่องาน “Agri Inno-Tech Xchange 2023 : นวัตกรรมสินค้าเกษตรไทยสู่การเปลี่ยนแปลงแห่งอนาคต” เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 สิงหาคม 2566 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร โดยความร่วมมือจากหน่วยงานพันธมิตรที่พร้อมผนึกกำลังจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยได้มีศักยภาพแข่งขันในเวทีระดับสากล ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สนช.) และกรมทรัพย์สินทางปัญญา (ทป.) กระทรวงพาณิชย์ จนเกิดผลสำเร็จในการดีลเจรจาจับคู่ธุรกิจงานวิจัยฯ สูงถึง 110 คู่เจรจา ซึ่งคิดเป็นมูลค่าการซื้อขายงานวิจัยสูงกว่า 12 ล้านบาท
นอกจากนี้ ภายในงานยังจัดให้มีการอบรมสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิในด้านต่าง ๆ มาร่วมให้ความรู้ในหัวข้อที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจในการสร้างแบรนด์สินค้าให้แข็งแกร่ง การใช้ประโยชน์จาก พ.ร.บ. ส่งเสริมวิจัยและนวัตกรรม และการสร้างสินค้านวัตกรรมไทยเพื่อเข้าสู่ตลาดสากล ซึ่งมีผู้ประกอบการและผู้สนใจให้การตอบรับเข้าร่วมฟังการบรรยายทั้งในรูปแบบ Online และ Onsite กว่า 200 คน และกรมฯ ได้จัดคลินิกให้คำปรึกษาพร้อมรองรับการแก้ไขปัญหาอุปสรรคในด้านต่างๆ สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการได้รับคำแนะนำในการพัฒนาธุรกิจ เช่น การขอจดสิทธิบัตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ ช่องทางการค้นหางานวิจัยเพื่อนำมาต่อยอดผลิตภัณฑ์ การเขียนแผนขอรับทุนด้านวิจัย และการขอรับสิทธิพิเศษด้านเงินลงทุนเพื่อนำมาออกแบบผลิตภัณฑ์ให้น่าสนใจ เป็นต้น
นายรณรงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นับตั้งแต่ปี 2561 กรมฯ ได้ดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาต่อยอดสินค้าเกษตรให้กลายเป็นสินค้าเกษตรนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นหน่วยงานกลางในการเชื่อมโยงเจ้าของผลงานวิจัยและผู้ประกอบการสินค้าเกษตรที่มีความสนใจในธุรกิจเดียวกันได้สร้างเครือข่ายและเจรจาถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อต่อยอดให้สินค้าเกิดมูลค่าเพิ่มและสามารถยกระดับสินค้าเกษตรไทยให้เป็นสินค้าที่มีคุณภาพดีมีมาตรฐานสากล ตรงตามความต้องการของตลาดและผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ สำหรับก้าวต่อไป กรมฯ จะขับเคลื่อนภารกิจดังกล่าวเพื่อสร้างกลไกการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรไทยอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ ให้สามารถเชื่อมโยงภาคการผลิต ภาคการวิจัย และภาคการตลาด เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้ผู้ประกอบการไทยได้อย่างยั่งยืนยิ่งขึ้นต่อไป ทั้งนี้สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ทางเว็บไซต์ของกรมการค้าต่างประเทศ http://www.dft.go.th หรือ Facebook : APiDFT หรือโทร. 0 – 2547 – 4744
***************
กรมการค้าต่างประเทศ
1 กันยายน 2566