กรมการพัฒนาชุมชนจับมือ TikTok ปลดล็อกโอกาสเศรษฐกิจดิจิทัลไทย ผลักดันสินค้า OTOP รุกตลาดอีคอมเมิร์ซ
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2566 เวลา 15.30 น. : ที่เวทีกลาง งานศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจด้วยพระบารมี อาคารชาเลนเจอร์ 2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการดำเนินโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ในการส่งเสริมช่องทางการตลาดผ่านแพลตฟอร์ม TikTok Shop ระหว่าง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และ คุณชนิดา คล้ายพันธ์ Head of Public Policy – TikTok Thailand เป็นผู้ลงนาม โดยมีนายวรงค์ แสงเมือง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และคุณปริญดา อุดมวงศ์ Head of Communications – TikTok Thailand เป็นสักขีพยาน และมีนางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ ประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน นายชูชีพ พงษ์ไชย รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายวิฑูรย์ นวลนุกูล รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ผู้ตรวจราชการกรม ผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชน เข้าร่วมในพิธี
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชนมีภารกิจเกี่ยวกับการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ และการมีส่วนร่วมของประชาชน ส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนฐานราก ให้มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ เสริมสร้างความสามารถและความเข้มแข็งของชุมชน เพิ่มมุ่งสู่ความสำเร็จ ตามวิสัยทัศน์ “เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” โดยกรมการพัฒนาชุมชนได้ดำเนินโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 ปัจจุบันมีผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ที่ลงทะเบียนจำนวน 99,732 กลุ่ม/ราย และมีผลิตภัณฑ์ OTOP ที่ลงทะเบียน จำนวน 225,276 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งในยุคดิจิทัลที่มีการพัฒนาในปัจจุบัน ประกอบกับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ผ่านมา พบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจสินค้า ผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นช่องทางที่สามารถเข้าถึงสินค้าได้ง่าย รวดเร็ว และเข้าถึงได้ทุกเวลา ซึ่งพี่น้องประชาชนที่ทำสินค้ามาจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ได้รับกำลังใจจากคนที่มาในงานศิลปาชีพประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจด้วยพระบารมี ได้มาอุดหนุนสินค้า ทำให้มีอาชีพมีรายได้ที่มากขึ้น จะเห็นได้ว่าในพื้นที่ต่างจังหวัด เราจะเจอคนที่สูงอายุมากกว่าเด็กและวัยทำงาน ซึ่งจะมาทำงานอยู่ในเมืองใหญ่ แต่วันนี้หลายๆ คน กลับไปบ้าน แล้วที่บ้านพ่อแม่ทำผลิตภัณฑ์ที่ดี เขาก็มาต่อยอด เพราะมีความรู้ทางเทคโนโลยี เช่น tiktok ขายของทางออนไลน์ เป็นการอยู่บ้านด้วย ครอบครัวอบอุ่นด้วย ของขายได้ดีด้วย ต้องขอขอบคุณ tiktok ที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนมาร่วมงานนี้กว่าสามแสนคน หวังอย่างยิ่งว่าการที่เราได้ลงนามความร่วมมือในวันนี้จะต่อยอดไปในภายภาคหน้า ทำให้ผู้ผลิตผู้ประกอบการได้พัฒนาผลิตภัณฑ์และช่องทางการตลาดและเป็นที่รู้จักของคนทั่วประเทศ ขอบคุณมากครับ
นางชนิดา คล้ายพันธ์ Head of Public Policy-TikTok Thailand กล่าวว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากพันธสัญญาของ TikTok ที่แสดงถึงการลงทุนครั้งใหม่มูลค่าหลายล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สูงสุดถึง 120,000 ราย ในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจออนไลน์และเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในเศรษฐกิจดิจิทัล ผ่านการมอบเงินทุนช่วยเหลือด้านการฝึกอบรมทักษะดิจิทัล และเครดิตโฆษณาสำหรับธุรกิจ TikTok มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนธุรกิจรายย่อยและขนาดย่อม ธุรกิจขนาดเล็ก ในพื้นที่ชนบทและชานเมือง รวมถึงผู้ประกอบการ OTOP เพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นเศรษฐกิจอัจฉริยะ ผ่านนโยบาย Smart Economy ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการเพิ่มมูลค่าให้กับระบบเศรษฐกิจ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของรายได้ของประเทศ และสร้างโอกาส ในการพัฒนาอาชีพ รวมถึงการสนับสนุนระบบนิเวศท้องถิ่นทั้งในด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ศักยภาพของ TikTok ในฐานะแพลตฟอร์มที่ควบรวมคอนเทนต์และคอมเมิร์ซเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมสร้างประสบการณ์ Shoppertainment หรือการช้อปปิ้งผ่านการรับชมคอนเทนต์ความบันเทิง จะช่วยปลดล็อกโอกาสทางธุรกิจของผู้ประกอบการ OTOP และส่งเสริมผลิตภัณฑ์ OTOP สู่ตลาดอีคอมเมิร์ซผ่าน TikTok Shop โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการสร้างระบบนิเวศที่มีความหลากหลาย ช่วยให้ผู้ประกอบการ OTOP มีความมั่นคงทางรายได้ พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทย พร้อมช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ OTOP และบริการอย่างง่ายดาย พร้อมส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ และปลุกจิตวิญญาณผู้ประกอบการธุรกิจในไทย เพื่อส่งเสริมโอกาสให้กับธุรกิจท้องถิ่นในประเทศไทย”
พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่าง กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และ TikTok Pte Ltd (TikTok Thailand) ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) โดยส่งเสริมโอกาสทางการตลาด และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นผ่านการส่งเสริมช่องทางการตลาดออนไลน์แก่ผู้ประกอบการ OTOP ผ่านแพลตฟอร์ม TikTok Shop เพื่อส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP และเพื่อส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่ท้องถิ่นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทย โดยขับเคลื่อนผ่านกิจกรรม #ช้อปได้ทุกถิ่น บนแพลตฟอร์ม TikTok Shop ตามระยะเวลาบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้ 3 ปี ซึ่งผลที่คาดว่าจะได้รับทำให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP มีช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ผ่านตลาดออนไลน์เพิ่มขึ้น สามารถตอบสนองทันต่อความต้องการของตลาด และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน เพื่อที่จะสร้างรายได้ ที่มั่นคง สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากภายในชุมชนให้มีความเข้มแข็งมีเสถียรภาพได้
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน