“บันทึกความเข้าใจ” มีทั้งกูและมึง ไม่พลิกไปไหน??
วิชาภาษาการเมืองของประทศไทยในสถานการณ์พรรคการเมืองโอเคร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล ก็คือคำว่า เอ็มโอยู (MOU)
เชื่อว่าส่วนใหญ่ทราบความหมายว่าคืออะไร แต่ก็ส่วนมากเช่นกันที่ไม่เข้าความหมายแปลว่าอะไร
ขออนุญาตอธิบายให้ผู้ไม่รู้จะได้รู้ความหมาย เอ็มโอยู หวังว่าผู้ที่รู้แล้ว คือ…คงไม่ว่ากัน
เอ็มโอยู เป็นตัวย่อภาษาอังกฤษ MOU มาจากคำเต็ม ๆ ว่า Memorandum of Understanding แปลเป็นไทยว่า “บันทึกความเข้าใจ”
ดังนั้น การลงนาม เอ็มโอยู ของ 8 พรรคการเมือง 133 เสียง
ให้ประชาชนได้เข้าใจว่า 8 พรรคการเมืองยินดีปรีเปรมในการเป็นขั้วรัฐบาล!!
เพราะฉะนั้นย่อมตีความได้ว่าพรรคที่เซ็นเอ็มโอยูจะอุ้ม “เสี่ยทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคน 30 ของไทย
แต่…กว่าที่ประชุมรัฐสภาจะมีมติเลือก “เสี่ยพิธา” เป็นนายกฯ คนที่ 30 ของไทยหรือไม่ต้องรอยาวนานไปถึงวันที่ 3 สิงหาคม 2566 ตามไทม์ไลน์ขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ!!
ไทม์ไลน์อาจร่นขึ้นมาได้ ถ้า กกต. ประกาศผลเร็ววันกว่าไทม์ไลน์ที่เนิ่นนานตามกติกา ซึ่งก็คงเร็วขึ้นประมาณ 1 หรือ 2 สัปดาห์เท่านั้น
“เสี่ยพิธา” จะได้รับโหวตจากที่ประชุมรัฐสภาเป็นนายกฯ หรือไม่ เรา ๆ ท่าน ๆ ก็จะรู้แน่ชัดแจ้งเร็วขึ้น!!
อา..แม้ว่า การเซ็น เอ็มโอยู “บันทึกความเข้าใจ” ของ 8 พรรคการเมืองที่จับมือร่วมกันเป็นรัฐบาล ก็คือเพียงแค่ทุกพรรรคเข้าใจตรงกัน
ทว่า เอ็มโอยู มิใช่เป็นสัญญาผูกมัดแต่ประการใด
ดังนั้นช่วงเวลาสูญญากาศ 2 เดือนสถานการณ์การเมืองเปลี่ยนแปลงได้ 24 ชั่วโมง
ด้วยเหตุฉะนี้ ข่าวเฟกนิวส์จึงผุดออกมาเขย่า “บันทึกความเข้าใจ” ไม่ขาดระยะแน่??
ประเดิมเฟกนิวส์แรกปล่อยข่าวลือว่า “ลุงป้อม” จะลาออกจากหัวหน้าพรรค พปชร. เพื่อยุบพรรคตัวเอง ให้ ส.ส. ของพรรคย้ายไปสังกัดพรรค พท. ซึ่งจะส่งผลให้ ส.ส. พท. มีมากกว่า กก. ในวันข้างหน้า พลิกมาเป็นแกนนำรัฐบาลแทน!!
แต่ก็จบข่าว เมื่อ “ลุงป้อม” ออกมาปฏิเสธ!!
ทว่าเรื่องจริงก็คือ ส.ส. กก. ลดไป 1 คน จาก 152 เหลือ 151 คน
เนื่องจากนับคะแนนตรวจสอบถูกต้อง ส.ส. เขตที่ 3 จ. ปราจีนบุรี ไม่ใช่ กก. กลายเป็น ภท.!!
ดังนั้น ส.ส. ภท. เพิ่มขึ้น 1 คน แต่ ส.ส. พท. 141 เท่าเดิมน้อยกว่า กก. เพียง 10 คน
เชื่อว่าจะมีเฟกนิวส์ปล่อยออกมาทั้งแผนลับ ลับ ๆ ล่อ ๆ ชักเข้าชักออกหวังล้ม “ก้าวไกล” พลิกไปเป็นฝ่ายค้าน??
อีกปัญหาของ 2 พรรคใหญ่ กก. กับ พท. ต้องการเก้าอี้ประธานรัฐสภา
อา.. “บันทึกความเข้าใจ” ผ่านไป 2-3 วัน พท. กับ กก. ได้เปิดศึกแย่งชิงเก้าอี้ประธานรัฐสภาระหว่างกัน
กก. ทุบโต๊ะว่าเก้าอี้นี้พรรคข้าจองแล้ว!!
ส่วน พท. ประกาศเสียงดังไม่ต้องตีความว่า พรรคข้าก็อยากนั่ง โดยให้เหตุผลว่า ไม่มีเอาเณรหรือพระบวชใหม่มาเป็นเจ้าอาวาส!!
นี่แค่ประมุขทางรัฐสภานะ ยังวุ่น ๆ ยุ่ง ๆ ไม่ลงตัวขนาดนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะเจรจาลับ ๆ ล่อ ๆ ยอมถอยคนละก้าวอย่างไร??
มีหรือเก้าอี้กระทรวงเกรดเอ กก. และ พท. คงต้องยื้อกันไปยื้อกันมากว่าจะโอเค คงใช้เวลาเจรจานานพอสมควร
กูรู้บางคนเจาะลึกเจาะลับฟันธงมาว่า ถ้า พรรค กก. ได้ คลัง พลังงาน ดิจิทัลฯ พรรค พท. ก็ต้องได้ คมนาคม เกษตรฯ พาณิชย์!?!
เพราะ 4 กระทรวงนี้ เป็นกระทรวงทองคำ!!
ส่วนกระทรวงอื่น ๆ คงประสานประโยชน์กันได้ง่าย!?!
ขอปิดท้ายเรื่องขำ ๆ ชูรสการเมืองในช่วงนี้คือการทะเลาะกันระหว่างหัวหน้าพรรค พท. กับ เลขาธิการพรรค ทสท.
เรื่องอะไรที่เปิดศึกวิวาททางปากจนถึงขั้นอยากชกหน้า คงเป็นทราบกันไปแล้วที่เป็นเรื่องไม่น่าเป็นเรื่อง
พรรค ทสท. 6 เสียงทะเลาะกับพรรค พท. 141 เสียง ไม่น่าตื่นเต้นอะไรที่จะทำให้ เอ็มโอยู ล่ม
หลายกูรูรู้ล่วงหน้ามาว่า ถ้าเป็นรัฐบาลร่วมกันแล้ว รับรองว่าจะเปิดศึกกันอีกสารพัดเรื่อง ทั้ง 2 พรรคใหญ่ 2 พรรคเล็ก
สำหรับพรรค 1 เสียง และ 2 เสียง นั่งดู 2 พรรคใหญ่ด้วยความสนุกดี!!
ไม่มีพรรคไหนประกาศว่า มีมึงไม่มีกู หรือ มีกูไม่มีมึง!!
เชื่อเหอะ “บันทึกความเข้าใจ” ทั้งมึงและกู เหมือนเดิม!!
เพราะ 8 พรรคที่จับมือกันอยากเป็นรัฐบาลมากกว่าพลิกไปเป็นฝ่ายค้าน!?!
ฮ่า ฮ่า ฮา!!
นายจักรยาน