นายกฯ คนที่ 30 หนีไม่พ้นต้องเจอโหดเลวดี!!
การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของทุกประเทศในโลกนี้ทำให้ตะลึงตึงตึงอย่างคาดไม่ถึง
ปรากฎการณ์แผ่นไหวสึนามิทางการเมืองจึงบังเกิดขึ้นได้ทุกวันเวลา
ผลการเลือกตั้งที่นี่ประเทศไทยที่ผ่านมา ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งแห่กันมาเข้าคิวลงคะแนนถึง 75.22 % จากจำนวนผู้มีสิทธิ 52 ล้านกว่าคน
ซึ่งประขาชนออกมาใช้สิทธิคนละ 1 เสียงมากที่สุดของการเลือกตั้งในประเทศไทยที่ประวัติศาสตร์การเมืองไทยต้องบันทึกไว้ให้จดจำ
เสียดายที่คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนมาใชัสิทธิทะลุ 80 % ก็ยังไม่บังเกิดขึ้น!!
เรา ๆ ท่าน ๆ คงต้องหวังกันว่าการเมืองระบอบประชาธิปไตยของไทยทะลุ 100 ปี ในอีก 9 ปีข้างหน้า การใช้สิทธิเลือกตั้งคงต้องพุ่งถึง 80 % แน่นอน!?!
อา..ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาชน ออกจากบ้านมาแสดงพลังอำนาจของตนเองว่าต้องการ “รุ่นหลาน” มากกว่า “รุ่นลุง” ให้เข้ามายึดอำนาจ.ทานโทษ (แฮ่ะ แฮํะ) .. เข้ามาบริหารประเทศชาติบ้านเมืองแทนลุง
พรรคก้าวไกลของรุ่นหลาน “เสี่ยทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่กวาด ส.ส. ทั่วเขตและปาร์ตี้ลิสต์เป็นอันดับ 1 ที่มีสิทธิตามกฎกติกาของรัฐธรรมนูญในการเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล จะนำพาชาติบ้านเมืองก้าวไกลไปได้ไกลสุดขั้วแค่ไหน ก็ต้องเวทแอนด์ซี
ด้วยเหตุฉะนี้ เพื่อมิให้การฟอร์มรัฐบาลยาวนานไกลเกินไป “เสี่ยพิธา” ได้เปิดแถลงข่าวให้รู้กันไปทั่วโลกเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2566 ว่าพันธมิตรพรรคร่วมรัฐบาลมีจำนวน 8 พรรค รวมเสียงได้ 133 เสียง
ก็คงรู้กันแล้วว่ามีพรรคใหญ่ พรรคกลาง พรรคเล็ก พรรคใดบ้าง ขออนุญาตฉายซ้ำเพื่อให้จดจำกันได้ขึ้นสมอง
ซึ่งประกอบด้วย พรรคก้าวไกล 152 เสียง พรรคเพื่อไทย 141 เสียง พรรคประชาชาติ 9 เสียง พรรคไทยสร้างไทย 6 เสียง พรรคเพื่อไทรวมพลัง 2 เสียง พรรคเสรีรวมไทย 1 เสียง พรรคเพื่อสังคมใหม่ 1 เสียง พรรคเป็นธรรม 1 เสียง
ข่าวล่าสุด “พรรคใหม่” อีก 1 เสียงก็เรียบร้อย รร. ก้าวไกล โอเคที่ร่วมเป็นรัฐบาลในการหนุน “เสี่ยทิม” เป็นนายกฯ คนที่ 30 ของไทย
ดังนั้นเสียงที่อุ้มส่ง “เสี่ยทิม” เป็นผู้นำประเทศ ณ ขณะนี้มีจำนวน 9 พรคการเมือง 134 เสียง จึงเป็น “เรือเหล็ก” ที่ล่มลงได้ยาก!!
ว่ามาว่า เพื่อขจัดความสับสนให้ชาวบ้านงงต่อไปอีกในการร่วมรัฐบาลของ 9 พรรคการเมือง จึงได้กำหนดวันเซ็น “เอ็มโอยู” ร่วมกันในวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 เป็นวันเดียวกับที่ “ลุงตู่” ยึดอำนาจ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557!!
อ๊ะ อ๊ะ จะเป็นการสื่อความหมาย “ประชาธิปไตย” กับ “เผด็จการ” อย่างไร ก็ขอให้สาธุชนตีความคิดกันเองตามสบายตามประสาการเมืองเรื่องยุ่ง ๆ
แม้ว่าหลังการเซ็นเอ็มโอยู 9 พรรคร่วมรัฐบาลผ่านไปแล้วก็ตาม
เชื่อว่าการแบ่งกระทรวงเกรดเอด้านเศรษฐกิจของ 2 พรรคใหญ่ “ก้าวไกล” กับ “เพื่อไทย” คงต้องเจรจากันหลายรอบกว่าจะตกลงโอเค
โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์!!
ทางด้านกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงแรงงาน กระทรวงยุติธรรม ก็น่าจะแบ่งปันประสานประโยชน์ได้ลงตัวที่ไร้เสียงโวยวายที่จะปูดออกมาทางโซเซียลมีเดีย!!
ส่วนกระทรวงเกรดบี “พรรคประชาชาติ” 9 เสียง และพรรคไทยสร้างไทย 6 เสียง น่าจะได้คุมคนละกระทรวง!!
สำหรับพรรคที่มี 2 เสียง 1 พรรค และพรรคที่มี 1 เสียง 4 พรรคการเมือง จะประสานมือร่วมกันเป็นพันธมิตรขอเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงหนึ่งกระทรวงใดหรือไม่ ก็น่าจับตาดูเช่นกัน!!!
กระทรวงที่ไม่มีการยื้อแย่งระหว่างพรรคที่เข้าร่วมรัฐบาลให้เป็นปัญหาการจัดตั้งรัฐบาลของ “เสี่ยทิม” จนเป็นข่าวใหญ่
ก็คือ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพัฒนาการและความมั่นคงของมนุษย์
บรรดากระทรวงเกรดท้าย ๆ ทาง พรรคก้าวไกล กับ พรรคเพื่อไทย คงสามารถจัดสรรแบ่งกันด้วยความสบายใจ!?!
แม้ว่าในเวลานี้จะมีเหล่ากูรู้เจาะข้างประตูหน้าต่างมาว่า พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย จะได้คุมกระทรวงเกรดเอนั้นกระทรวงนี้ ก็อย่าเพิ่งปักใจเชื่อทีเดียวนะจะบอกให้
เพราะการเมืองต้องวิเคราะห์มั่วไปทางโน้นทางนี้ให้มั่วนัวไปหมด เพื่อให้ท่าน ๆ รับประทานข่าวได้มีรสชาติ!!
กูรู้หลายท่านฟันธงว่า “เสี่ยทิม” ได้เป็นนายกฯ คนที่ 30 จากการลงมติเห็นชอบของที่ประชุมรัฐสภา! แน่นอน!!
แต่ภัยพิบัติทางการเมืองที่ “เสี่ยทิม” นายกฯ คนที่ 30 หนีไม่พ้นต้องผจญความโหดเลวดีตลอดเวลา
ขอให้โชคดีนะหลาน!!
นายจักรยาน