“พีระพันธุ์” มั่นใจ “บัตรลุงตู่ พลัส” เพิ่มสิทธิประโยชน์ถูกใจประชาชน ทั้งเพิ่มเงิน และใช้เป็นหลักประกันกู้เงินจากธนาคารรัฐไว้ใช้ยามฉุกเฉิน สร้างความมั่นคงในชีวิต และแก้ปัญหาหนี้นอกระบบได้
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึง นโยบายสวัสดิการพลัส นโยบายหลักของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่กำลังเป็นที่สนใจของประชาชนในขณะนี้ว่า นโยบายนี้เป็นการต่อยอดหรือว่าทำต่อจากสิ่งที่ท่านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำไว้ในฐานะนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการช่วยเหลือค่าครองชีพ ลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน บัตรสวัสดิการรัฐ หรือที่ประชาชนเรียกว่า “บัตรลุงตู่” แต่เดิมเป็นแค่สวัสดิการธรรมดาแต่พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้นำมาทำให้ได้สิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้น จึงเรียกเพิ่มเติมว่าเป็น บัตรสวัสดิการพลัส ที่จะมีสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้น ซึ่งแต่เดิมจะจ่ายให้พี่น้องประชาชนเดือนละ 200 – 300 บาท ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติแต่ละคน แต่หลังจากการทำงานของพรรค ได้ นำงบประมาณต่าง ๆ มาดู ปรากฏว่า สามารถจัดเพิ่มเติมให้ได้ถึง 1,000 บาท
นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า ประการที่ 2 เนื่องจากพบว่าประชาชนที่อยู่ในเงื่อนไขคุณสมบัติที่จะได้บัตรนี้จำนวนมาก บางครั้งประสบความเดือดร้อนจากเหตุฉุกเฉินจำเป็นต้องใช้เงินก้อน ก็สามารถนำบัตรนี้ไปใช้เป็นหลักประกันในการกู้เงินกับธนาคารของรัฐ ประมาณ 10,000 บาท ซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาการเป็นหนี้นอกระบบได้
“เพราะฉะนั้นก็จะทำให้บัตรใบเดียวเนี่ยประชาชนได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น สองต่อ ต่อที่หนึ่ง คือรายเดือนเพิ่มขึ้น ต่อที่สอง เหมือนเป็นหลักประกันชีวิตให้กับตนเอง เวลาเกิดเหตุจำเป็นฉุกเฉินต้องการเงินด่วน สามารถไปใช้สิทธิเอาเงินออกมาก่อนได้ โดยสรุปบัตรสวัสดิการพลัสหรือที่ชาวบ้านเรียกว่าบัตรลุงตู่พลัส คือสิ่งที่ท่านจะได้ท่านได้เดือนละ 1,000 บาทแปลว่า หนึ่งปีท่านได้ 12,000 บาท 4 ปีท่านได้ 48,000 บาท แล้วขณะเดียวกันบัตรนี้ยังเป็นบัตรที่ใช้เป็นหลักประกันที่ท่านสามารถใช้สิทธิ์ในยามฉุกเฉินได้อีก 10,000 บาทเพราะฉะนั้นสิทธิประโยชน์จากบัตรนี้ได้มากกว่าเยอะ นอกจากนั้นบัตรนี้ใช้ได้ทั่วประเทศ ไม่ใช่อยู่แค่ร้านค้าใกล้บ้าน แล้วก็ใช้ได้ทุกอย่างทุกประการที่ท่านอยากได้” นายพีระพันธุ์กล่าว
ที่มา : FB พรรครวมไทยสร้างชาติ