เลขา รมว.ยุติธรรม รับเรื่องจาก “ป้ามล-ทิชา” นำทีมมูลนิธิเด็ก ขอคุ้มครองพยาน กรณีเด็กหญิง 14 ปี ที่ถูกผู้ต้องหา 11 คน รุมโทรมกว่า 2 ปี เพื่อขอคุ้มครองพยาน และกรณีภรรยาร้องสามีถูกจับเป็นแพะคดียาเสพติด
ในวันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม 2566 เวลา 10.30 น. ณ บริเวณด้านหน้าศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม (ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข) ชั้น 1 อาคารกระทรวงยุติธรรม ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ รับเรื่องจากนางทิชา ณ นคร ที่ปรึกษามูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว พร้อมด้วย นายชูวิทย์ จันทรส เลขาธิการมูลนิธิฯ และภาคีเครือข่าย เข้ายื่นหนังสือขอการคุ้มครองพยาน ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้ยายซึ่งพิการตาบอด แม่และเด็กหญิง อายุ 14 ปี ที่ถูกผู้ต้องหา 11 คน รุมโทรมอย่างต่อเนื่องในจังหวัดเลย ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 – มกราคม 2566 เพื่อเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยาน
โดยนางทิชา ได้เสนอขอให้กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เร่งนำเด็กหญิง และครอบครัวเข้าสู่การคุ้มครองพยานโดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัยของพยานและป้องกันไม่ให้ถูกแทรกแซง พร้อมทั้งขออนุญาตให้มูลนิธิเด็กฯ และทีมงานเข้าไปมีส่วนร่วมในการทำกระบวนการเสริมพลังใจกับเด็กหญิง และครอบครัว อันจะนำไปสู่ความยุติธรรม และการเยียวยาอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนขอให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เร่งถอดบทเรียนร่วมกับองค์กรภาคประชาชน เพื่อค้นหาจุดแข็ง จุดอ่อน นำไปสู่การปรับปรุงแก้ไขระบบ กลไกการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต กล่าวว่า กรณีดังกล่าวได้มอบหมายให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ พิจารณาการเยียวยาตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทน ผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่าย แก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 และนำเด็กหญิง และครอบครัวเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยานทันที อีกทั้งจะมอบหมายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รวมถึงสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ลงพื้นที่เข้าไปช่วยพนักงานสอบสวนในการแสวงหาพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงเพื่อนำมาใช้ประกอบการพิจารณาลงโทษผู้กระทำความผิด และ แม้คดีนี้จะไม่เข้าเงื่อนไขคดีพิเศษของดีเอสไอ แต่ดีเอสไอจะส่งเจ้าหน้าที่ เพื่อลงพื้นที่ช่วยแสวงหาข้อเท็จจริง และสนับสนุนการทำงานเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ได้
ต่อจากนั้น ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต รับเรื่องจากนายกฤษฎา โลหิตดี หรือ “ทนายโนบิ” พร้อมด้วยทีมทนายความ และนายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือ “เฮียเปี๊ยก” จากเพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย นำ หญิงวัย 47 ปี เข้าร้องขอความเป็นธรรมให้สามี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีใช้พาหนะขนยาบ้ากว่า 2 แสนเม็ด ที่จังหวัดอุดรธานี โดยผู้ร้องให้การว่าวันเวลาที่เกิดเหตุการณ์ตรวจจับยึดของกลางดังกล่าวสามีทำงานอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และมีพยานหลักฐานยืนยันในวันเกิดเหตุ เข้าร้องทุกข์กับกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ประสานเรื่องคดี
โดยว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต กล่าวว่า กรณีดังกล่าวได้มอบหมายให้ยุติธรรมจังหวัดอุดรธานี และ ป.ป.ส. ในพื้นที่ เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่าทางครอบครัวผู้เสียหายไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนจะมอบหมายให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ดูแลเรื่องการยื่นคำร้องต่อศาลขอประกันตัวชั่วคราว
/////////////