รองฯ กช. รุดตรวจสอบเหตุนักเรียนถูกทำร้ายร่างกายในพื้นที่สงขลา ย้ำให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

วันที่ 14 ก.พ.66 : นายประพัทธ์ รัตนอรุณ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (รองเลขาธิการ กช.) ลงพื้นที่ จ.สงขลา เพื่อตรวจสอบกรณีที่ปรากฏข่าวตามสื่อสังคมออนไลน์ครูสอนวิชานาฏศิลป์ ใช้ไม้กระบองกระบี่ตีนักเรียนหญิง ม.2 เข้าที่น่อง และจับมัดมือไพล่หลัง ให้นักเรียนชายรุ่นพี่ ม.5 ตบที่หน้าหลายครั้ง เพราะฝึกท่ารำไม่ได้ พร้อมด้วย นายสุกรี แวมูซอ ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดสงขลา เจ้าหน้าที่ (สช.) ที่เกี่ยวข้อง และผู้บริหารโรงเรียนร่วมให้ข้อมูล

นายประพัทธ์ฯ กล่าวว่า จากที่ได้พูดคุยกับทางโรงเรียนได้รับทราบถึงสาเหตุดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นในขณะการฝึกสอนเพื่อพัฒนาการรำมโนราห์ให้เกิดทักษะและเกิดความเชี่ยวชาญ แต่ด้วยปัจจุบันกระทรวงศึกษาธิการโดย นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้ให้ความสำคัญในเรื่องการลงโทษนักเรียน เพราะกระทรวงศึกษาธิการมีระเบียบเรื่องนี้ไว้แล้วว่าสามารถลงโทษนักเรียนที่กระทำผิดได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษา พ.ศ.2548 และสิ่งที่สำคัญ คือ การลงโทษนั้นต้องเป็นการกระทำที่ไม่รุนแรงหรือทำให้นักเรียนเกิดความอับอายหรือสูญเสียความมั่นใจในคุณค่าของตนเอง โดยมีสาระสำคัญ คือ กำหนดโทษที่จะลงโทษแก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่กระทําความผิด มี 4 สถาน คือ ว่ากล่าวตักเตือน ทําทัณฑ์บน ตัดคะแนนความประพฤติ ทํากิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ทั้งนี้ ห้ามลงโทษนักเรียนและนักศึกษาด้วยวิธีรุนแรง หรือแบบกลั่นแกล้ง หรือลงโทษด้วยความโกรธ หรือด้วยความพยาบาท โดยให้คำนึงถึงอายุและความร้ายแรงของพฤติการณ์ประกอบการลงโทษด้วย ซึ่งการลงโทษให้เป็นไปเพื่อเจตนาที่จะแก้นิสัย และความประพฤติไม่ดี ให้รู้สำนึกในความผิด และกลับมาประพฤติตนในทางที่ดีต่อไป

โดยขณะนี้นักเรียนดังกล่าวได้ขอลาพักอยู่ที่บ้าน และทางโรงเรียนก็พร้อมแสดงความรับผิดชอบและจะดำเนินการมาตรการป้องกันเหตุความไม่ปลอดภัยไม่ให้เกิดขึ้นอีก และต้องให้ความสำคัญกับการเรียนของนักเรียนเป็นสำคัญ โดยสำหรับเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จะต้องดำเนินการไปตามข้อเท็จจริงและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

นอกจากนี้ นักเรียนและผู้ปกครองที่มีลูกหลานที่เผชิญเหตุกับความไม่ปลอดภัยหากไม่ได้รับความเป็นธรรมสามารถร้องเรียนเข้ามาได้ที่กระทรวงศึกษาธิการ ที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือและดูแลความปลอดภัยในสถานศึกษา โดยแจ้งเหตุร้องเรียน ได้ที่ “MOE Safety Center” ผ่าน 4 ช่องทาง คือ แอป MOE Safety Center, เว็บไซต์ MOESafetyCenter.com, ไลน์ @MOESafetyCenter, โทร.0 2126 6565 หรือศูนย์บริการประชาชน ศธ. โทร.1579 ตลอด 24 ชั่วโมง

สุรเชษฐ ศิลาานนท์ รายงาน