อธิบดี DSI ตั้งกรรมการสอบสวน พร้อมให้ความเป็นธรรม ถ้าผิดลงโทษเด็ดขาด กรณี ศาลออกหมายจับเจ้าหน้าที่ DSI ร่วมตรวจค้นบ้านพักกงสุลใหญ่นาอูรู

ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เผยแพร่เอกสารข่าว เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2565 กรณี นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) ตรวจค้นบ้านพักกงสุลใหญ่นาอูรูประจำประเทศไทย ในท้องที่สถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2565 ต่อมา ปรากฏข่าวกล่าวหาว่าสิ่งของที่ตรวจยึดส่งพนักงานสอบสวนไม่ครบถ้วน และมีการกล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวนที่ บก.ปปป.ตร. ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ นั้น

ล่าสุด ปรากฏข่าวว่าพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้เพื่อออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) จำนวน 9 นาย และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมสอบสวนคดีพิเศษจำนวนหนึ่ง และศาลได้อนุมัติหมายจับดังกล่าวแล้ว กรณีดังกล่าว นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ได้มีคำสั่งให้ดำเนินการทางวินัยตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 แล้ว พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย หากผลการสอบสวนพบว่าเป็นการกระทำความผิดทางอาญาและเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ จะดำเนินการทางวินัยโดยเด็ดขาด

ต่อประเด็นที่มีการกล่าวหาว่า อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษและทีมงานออกมาแถลงข้อเท็จจริง ไม่ตรงกับความเป็นจริง ว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษไม่เกี่ยวข้องนั้น กรณีดังกล่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษได้แถลงถึงการที่เจ้าหน้าที่เข้าไปร่วมปฏิบัติงานกับตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) แล้ว ไม่มีข้อความใดปรากฏว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษไม่เกี่ยวข้อง ดังที่ปรากฏในเอกสารข่าวฉบับลงวันที่ 30 ธันวาคม 2565 แล้ว

สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน