“พาณิชย์-DITP” เผยอาหารและเครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว สินค้าอุปโภคบริโภค มีโอกาสขายเวียดนามรับตลาดค้าปลีกโต
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผยผลสำรวจตลาดค้าปลีกในเวียดนามกลับมาฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังโควิด-19 คลี่คลาย การท่องเที่ยวฟื้นตัว ชี้เป็นโอกาสในการส่งออกสินค้าไทยเข้าไปขาย ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว สินค้าอุปโภคบริโภค
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้มอบหมายให้กรมฯ สำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยในประเทศต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับรายงานจากนางสุภาพร สุขมาก ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครโฮจิมินห์ เวียดนาม ถึงผลการสำรวจตลาดค้าปลีกในเวียดนามที่พบว่ามีการกลับมาฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง หลังจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย และการท่องเที่ยวกำลังฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้มีการเปิดตัวของการค้าปลีกเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์ได้รายงานว่าปัจจุบันอุตสาหกรรมค้าปลีกของเวียดนาม มีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่ง หลังจาก 1 ปีที่เวียดนามเปิดทำการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 โดยมีผลการสำรวจธุรกิจค้าปลีกที่จัดทำโดยบริษัท Vietnam Report ในเดือนสิงหาคม 2565 พบว่าร้อยละ 53.8 ของธุรกิจค้าปลีกมีผลการดำเนินงานที่เทียบเท่าและสูงกว่าระดับก่อนเกิดโรคระบาดของโควิด-19 การฟื้นตัวและการเติบโตของอุตสาหกรรมค้าปลีกมีส่วนอย่างมากต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวม แม้ว่าเสถียรภาพเศรษฐกิจยังคงผันผวนก็ตาม
“จากสถานการณ์การฟื้นตัวของการค้าปลีกดังกล่าว ส่งผลให้เวียดนามมีความต้องการสินค้ามากขึ้น ทำให้สินค้าของไทยในหลายกลุ่ม เช่น อาหารและเครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว สินค้าอุปโภคบริโภคของไทย มีโอกาสที่จะเข้าไปขยายตลาดในเวียดนามได้มากขึ้น กรมฯ ขอแนะนำให้ผู้ประกอบการไทย ที่ต้องการบุกเจาะตลาดเวียดนาม มองหาโอกาสในการขายสินค้าในกลุ่มดังกล่าวเข้าสู่เวียดนาม เพื่อป้อนความต้องการที่สูงขึ้น ทั้งตลาดบริโภคในประเทศและตลาดบริโภคที่เกิดขึ้นจากนักท่องเที่ยว” นายภูสิต กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้แนวโน้มของการค้าปลีกจะเติบโต แต่เวียดนามก็ยังต้องเผชิญกับผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อ และความยากลำบากที่เกิดจากราคาสินค้าสูง การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย และอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้ผู้บริโภคมีพฤติกรรมการจับจ่ายอย่างประหยัดและลดการใช้จ่ายของใช้ที่ไม่จำเป็นลง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มการบริโภคกำลังเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน โดยผู้บริโภคมีความกังวลและให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น เปลี่ยนมาใช้การชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสด หรือเปลี่ยนจากการซื้อสินค้าโดยตรงเป็นออนไลน์ ซึ่งผู้ประกอบการไทยจะต้องทำการศึกษา และติดตามเทรนด์การตลาดเหล่านี้ให้ทัน เพื่อนำมาใช้วางแผนในการบุกเจาะตลาด
สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ http://www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169
*****************************
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
11 มกราคม 2566