สังคม

กรรมาธิการกิจการศาลฯ สภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่ติดตามปัญหาการอนุญาตให้บริษัทเอกชนใช้เครื่องหมายการค้าตรานมไทย-เดนมาร์ค


17 ธันวาคม 2022, 16:50 น.

 

กรรมาธิการกิจการศาลฯ สภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่ติดตามปัญหาการอนุญาตให้บริษัทเอกชนใช้เครื่องหมายการค้าตรานมไทย-เดนมาร์ค

วันที่ 16 ธ.ค.65 : นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะ ลงพื้นที่เพื่อร่วมประชุมติดตามปัญหาการอนุญาตให้บริษัทเอกชนใช้เครื่องหมายการค้าตรานมไทย-เดนมาร์ค ตามที่มีสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (สร.อ.ส.ค.) ร้องเรียน โดยมีผู้แทน อ.ส.ค. คณะกรรมการสหภาพแรงงานวิสาหกิจ อ.ส.ค.และผู้แทนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม เข้าร่วมประชุมหารือ ณ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือว่า ภายหลังจากคณะกรรมาธิการฯ ได้รับหนังสือ ขอคัดค้านการอนุญาตนำเครื่องหมายการค้า “ไทย-เดนมาร์ค” ให้เอกชนใช้ในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมผงสำหรับทารก จากสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (สร.อ.ส.ค.) เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ก็ได้มีการประชุมคณะกรรมาธิการถึง 2 ครั้ง พร้อมทั้งได้มีการลงพื้นที่เก็บข้อมูล ศึกษาข้อเท็จจริง และได้ตั้งข้อสังเกตว่า การที่ อ.ส.ค. อนุญาตให้เอกชนใช้เครื่องหมายการค้า “ไทย-เดนมาร์ค” จะเข้าข่าย พ.ร.บ.ร่วมทุนหรือไม่ และหากมีการดำเนินการ อ.ส.ค. ได้มีแผนการพัฒนาธุรกิจในอนาคตอย่างไร อีกทั้งการที่ อ.ส.ค. เปิดรับเอกชนเพียงรายเดียวเข้ามาดำเนินกิจการ โดยไม่มีการเปิดประมูล ทำให้ไม่เกิดความยุติธรรมโปร่งใสในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบราชการ และยังพบว่ามีความไม่ชัดเจนของโครงการดังกล่าวนี้ในอีกหลายๆ ด้าน คณะกรรมาธิการฯ จึงอยากให้มีการชะลอการดำเนินการโครงการนี้ไว้ก่อน และส่งเรื่องให้ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะกำกับดูแล อ.ส.ค. รวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจดำเนินการใด ๆ ออกไป

“หาก อ.ส.ค. จะดำเนินการโครงการดังกล่าว จะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศ และผู้ที่มีส่วนได้เสียเป็นสำคัญ โดยเฉพาะเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ซึ่งเป็นอาชีพพระราชทาน เป็นจำนวนมาก ที่จำเป็นต้องพึ่งพา อ.ส.ค. ในการประกอบอาชีพเป็นหลัก หากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ย่อมส่งผลกระทบทั้งระบบ จึงจำเป็นต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพื่อไม่ให้เกษตรกรได้รับผลกระทบในภายหลัง” นายจิรายุฯ กล่าว

นางสาวณัฐภร แก้วประทุม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (สร.อ.ส.ค.) กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่ อ.ส.ค. จะอนุญาตให้บริษัทชั้นนำในประเทศออสเตรเลียใช้แบรนด์ “ไทย-เดนมาร์ค” เพื่อจำหน่ายนมผงสูตร 2 ที่จะนำเข้ามานี้ จะมีการเสริมสารอาหารต่าง ๆ (Fortified) เช่น โปรตีน แคลเซียมและฟอสฟอรัส สำหรับเด็กเล็กอายุ 6 เดือน ถึง 1 ปี ประเด็นดังกล่าวนี้ กำลังเป็นที่ถกเถียงกันในวงการโคนมว่า ทาง อ.ส.ค. คิดได้อย่างไรกับแนวทางนี้ เพราะใคร ๆ ต่างก็รู้ดีว่า บทบาทหน้าที่และวัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง อ.ส.ค. นั้นคืออะไร การดำเนินการเพื่ออนุญาตให้บริษัทเอกชนต่างชาติใช้แบรนด์ “ไทย-เดนมาร์ค” จึงไม่สอดรับกับวัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง อ.ส.ค. อีกทั้งเครื่องหมายการค้าตรา “ไทย-เดนมาร์ค” เป็นสินทรัพย์ของ อ.ส ค. ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ ที่มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจของไทย การดำเนินการเพื่ออนุญาตให้บริษัทเอกชนต่างชาติใช้แบรนด์ “ไทย-เดนมาร์ค” จึงอาจเข้าข่ายการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทนมผงเอกชนข้ามชาติ จนส่งผลกระทบต่อตลาดนมในภาพรวมของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมของไทย และ อ.ส.ค. อีกทั้งมองว่า การดำเนินการเพื่ออนุญาตให้บริษัทเอกชนต่างชาติใช้แบรนด์ “ไทย-เดนมาร์ค” ไม่อยู่ในอำนาจ ของ อ.ส.ค. ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง อ.ส.ค. ซึ่ง อ.ส.ค. ควรทำหน้าที่ในฐานะที่เป็นหน่วยงานของรัฐที่เป็นกลไกสำคัญในการดูแลปกป้องผลประโยชน์ของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมไทยเป็นหลัก พัฒนาศักยภาพและยกระดับการเลี้ยงโคนมของเกษตรกรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน เสริมสร้างความมั่นคงในอาชีพให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม

“ภายหลังจากที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (สร.อ.ส.ค.) ได้ยื่นข้อเรียกร้องเพื่อคัดค้านการดำเนินโครงการดังกล่าวต่อ คณะกรรมาธิการ กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร จนกระทั่งมีผลให้ชะลอการดำเนินโครงการนี้ออกไปก่อน ทางสหภาพฯ มีความพอใจในระดับหนึ่ง แต่หากจะให้พอใจสูงสุดคือควรยุติโครงการนี้ และเรียกร้องให้ฝ่ายบริหารหันไปให้ความสำคัญการพัฒนาอาชีพการเลี้ยงโคนมของเกษตรกรเป็นหลัก เพราะมองว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวไม่ได้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกร หลังจากนี้ ทางสหภาพฯ จะติดตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของ อ.ส.ค. และเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ผู้สืบสานอาชีพพระราชทานจาก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จนทำให้เกษตรกรชาวไทยในวันนี้ได้มีอาชีพ มีรายได้ที่มั่นคงเลี้ยงครอบครัวได้ ช่วยสร้างรายได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ได้บริโภคอาหารที่มีคุณค่าอย่างนมโคอีกด้วย” ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (สร.อ.ส.ค.) กล่าว

ด้าน นายสุกิจ สิงห์กลาง เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม กล่าวว่า วันนี้ต้องขอขอบคุณคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎรและสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (สร.อ.ส.ค.) ที่ช่วยออกมาปกป้องอาชีพการเลี้ยงโคนม และเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม เพราะหาก อ.ส.ค. มีการดำเนินโครงการดังกล่าว ย่อมได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างแน่นอน อาจจะต้องลดขนาดฟาร์มและถึงขั้นอาจจะต้องเลิกเลี้ยงโคนมได้

ดังนั้น อ.ส.ค. ควรเข้ามาพัฒนาอาชีพเลี้ยงโคนมให้เกษตรกร และดำเนินการรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกร ซึ่งเป็นนมโคสดแท้ 100% ไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ซึ่งจะช่วยให้ราคาน้ำนมดิบมีราคาเพิ่มขึ้น เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ในขณะที่ผู้บริโภคก็จะได้ดื่มนมโคแท้ 100% ซึ่งมีประโยชน์กว่านมผงมากมาย โดยเฉพาะนมผงที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เพราะไม่ได้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในประเทศเลย

 

สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน

ข่าวในหมวดเดียวกัน

เพิ่มเติม...

การเมือง

คอลัมนิสต์

คมในความ

มหาราษฎร์ Shorts

ภาพเก่าเล่าอดีต

ไฮไลท์

ข่าวประชาสัมพันธ์

ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

ท่องเที่ยว

ศาสนา

สุขภาพ

แวดวงนักรบ

สังคม

บทบาทบุคคล

< กลับหมวดสังคม

เรื่องล่าสุด