“นายกฯ คนละครึ่ง” กับ “โรคไหล” ระบาด!!
วันเวลาเดินหน้าไม่หยุดนิ่งไปทุก ๆ วันตามที่โลกหมุนรอบตัวเอง และโคจรรอบดวงอาทิตย์
เหลือเวลาอีกไม่ถึง 5 เดือน สภาผู้แทนฯ ยุค “ลุงตู่” จะครบเทอม 4 ปี ในวันที่ 23 มีนาคม 2566 ซึ่งจะต้องมีการเลือกตั้ง ส.ส. ทั่วประเทศกันใหม่
และ กกต. ได้กำหนดจัดการเลือกตั้ง ส.ส. ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 ตามกติกาของรัฐธรรมนูญที่ให้จัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน!!
ด้วยเหตุฉะนี้ บรรดานักข่าวทุกสารพัดสื่อในยุคดิจิทัลจึงพร้อมใจยิงคำถามใส่ “ลุงตู่” เหมือนนัดหมายกันมาในเวลานี้
คำถามที่ทุกคนอยากรู้ก็คือ “ลุงตู่” จะขอต่อวีซ่าอีก 2 ปีหรือไม่ ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ให้เป็นนายกฯ ได้แค่ปี 2568!!
ส่วนอีก 2 ปี ส่งต่อให้พี่ใหญ่ตระกูล ป. “ลุงป้อม” เพื่อใช้ใจบันดาลแรงเป็นนายกฯ ตามความประสงค์ของมวลสมาชิกพรรค พปชร.
ดังนั้น จึงเป็นคำถาม “นายกฯ คนละครึ่ง” ที่ใครต่อใครรอคำตอบว่า โอเค หรือไม่!?!
แต่ “ลุงตู่” ยังอุบไต๋ตอบแต่เพียงว่า “เมื่อไหร่ ก็เมื่อนั้น”
คำถาม “นายกฯ คนละครึ่ง” ยังไม่มีคำตอบชัด ๆ จาก “ลุงป้อม” เช่นกัน คงจะตอบว่า “ไม่รู้ ไม่รู้”!!
แกนนำฝ่ายค้าน “พท.” ก็ไม่รู้ว่าพรรคตัวเองจะแลนด์สไลด์ตามความหวังและฝันหรือไม่?
นิด้าโพลที่สำรวจความคิดเห็นจากประชาชนทุกครั้งที่ผ่าน ๆ มา พ่อแม่ พี่น้อง ลุงป้า น้าอา ปู่ย่า ตายาย ระบุว่าจะเลือก พท.เป็นอันดับหนึ่งในศึกเลือกตั้งกลางปีหน้า
สำหรับ “นายกรัฐมนตรี” นั้น เป็นบุคคลจากพรรคอื่น??
แม้ว่า พท.จะเปิดตัว “หนูอุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร นานหลายเดือน ในตำแหน่งหัวหน้าครอบครัว พท. ที่อยู่เหนือกว่าหัวหน้า พท. ที่ต้องรับใช้หัวหน้าครอบครัว มากระโดดโลดเต้นทางการเมืองเพื่อหยั่งกระแสทางสังคม!!
กูรู กูรู้ ทั่วราชอาณาจักรวิเคราะห์เจาะลับเสียงเดียวกันว่า “หนูอุ๊งอิ๊ง” เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของ พท. แน่!!
ทว่าชื่อของ “หนูอุ๊งอิ๊ง” กระแสยังพลิกซ้ายพลิกขวาพลิกล่างพลิกบน ไม่นิ่ง!?!
พรรค พท. จึงเปิดชื่อ เจ้าพ่อวงการอสังหาริมทรัพย์ “เศรษฐา ทวีสิน” ที่บรรดานักธุรกิจรู้จักชื่อเสียงความดังเป็นอย่างดี มาหยั่งกระแสเสียงแคนดิเดตนายกฯ ของ พท. อีกคน!!
ณ วันนี้ ก็ยัง “ไม่รู้” ว่า พท. จะเสนอชื่อ “หนูอุ๊งอิ๊ง” กับ “เสี่ยเศรษฐา” ใครจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ อันดับ 1??
หรือเลียนแบบ “นายกฯ คนละครึ่ง” อย่างพรรค พปชร.!?! (ฮา)
สำหรับเรื่องที่รู้ ๆ ทางการเมืองที่เป็นธรรมดาสามัญที่พรรคการเมืองจะมีเลือดไหลออกจากพรรคไป
เพราะวันเวลาเลือกตั้งใหม่อีกไม่นานเกินรอใกล้เข้ามาแล้ว ด้วยเหตุฉะนี้ “โรคไหล” ได้เวลาแพร่ระบาดไปสู่ ส.ส. และสมาชิกพรรคการเมืองแต่ละพรรคที่เป็นโรครู้สึกอึดอึดจากพรรคเดิมขอลาออกไหลไปอยู่พรรคใหม่ที่เป็นพรรคตั้งขึ้นมาใหม่ หรือกลับบ้านเก่าพรรคเดิมที่เคยอยู่
ภายในสิ้นปี 2565 นี้ ส.ส. และนักการเมืองคนดังคนไม่ดังจะไหลไปไหลมาอยู่สังกัดพรรคไหนก็จะเป็นที่แน่ชัด ใครไปใครอยู่!!
ดังนั้น ต้นปี 2566 “โรคไหล” ก็จะหยุดระบาด เพราะรัฐธรรมนูญเขียนกติกาไว้ว่าก่อนวันครบเทอมของสภาฯ ภายใน 180 วันห้ามนักการเมืองเป็น “โรคไหล” เด็ดขาด!!
อาการโรคไหลของ ส.ส. และนักการเมืองมีความแตกต่างกันระหว่สงนักการเมืองดัง จากพรรคเก่าแก่ดัง กับนักการเมืองไม่ดังจากพรรคขนาดกลางขนาดเล็กที่ไหลออกไปก็ย่อมเป็นข่าวดังมากดังน้อยของความดังบุคคนั้น ๆ
ดังเช่นล่าสุด “ดร.สามสี” ไตรรงค์ สุวรรณคีรี โบกมืออำลาจากพรรค ปชป.ที่อยู่มา 36 ปี จึงเป็นข่าวดังที่กลุ่มกูรู้จะต้องขุดคุ้ยเจาะลึก ๆ ลับ ๆ ถึงปัญหาภายในพรรค ปชป. แน่นอน
ส่วนปัญหาที่แท้จริง 100 % คืออะไรนั้น “ดร.สามสี” ย่อมรู้วาเหตุว่า ทำไมตนเองเจอไวรัส “โรคไหล” เล่นงาน คนอื่น ๆ นั้นรู้จริงแค่ครึ่งเดียว!!
การไขก๊อกไหลตัวเองออกจากพรรค ปชป. “ดร.ไตรรงต์” ไม่ได้บอกว่าจะลาจากการเมือง จึงตีความได้ว่าจะเล่นการเมืองต่อไป
“ผมขอมีลมหายใจเป็นของตัวเอง” เหตุผลของ ดร.ไตรรงค์ ที่โพสต์ผ่าน FB สาธารณะของตนเองให้ FC ได้รับทราบ ก็เป็นปริศนาธรรมให้ขบคิดลับสมองกัน
สรุปว่า ลมหายใจของ “ดร.สามสี” ยังมีลมหายใจการเมืองตลอดกาลเวลา ที่ยังหายใจ!!
จบข่าว “นายกฯ คนละครึ่ง” และ “โรคไหล” ด้วยประการฉะนี้แล!!
นายจักรยาน