ข่าวประชาสัมพันธ์

สมาคมสันนิบาตฯ-กสศ. ลงนาม MOU สานพลังลดเหลื่อมล้ำทางศึกษาผ่านเครือข่ายเทศบาลทั่วประเทศ


21 กันยายน 2022, 16:49 น.

 

สมาคมสันนิบาตฯ-กสศ. ลงนาม MOU สานพลังลดเหลื่อมล้ำทางศึกษาผ่านเครือข่ายเทศบาลทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 19 ก.ย.65 ณ ห้องจูปิเตอร์ 4 อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี : สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ร่วมกับ (กสศ.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือช่วยเหลือเด็กยากจนด้อยโอกาสกลับเข้าสู่ระบบลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา พร้อมเชื่อมโยงการสนับสนุนเพื่อขับเคลื่อนสู่งานผ่านเทศบาล 2,400 แห่งทั่วประเทศ ควบคู่กับการพัฒนาระบบฐานข้อมูล องค์ความรู้ เครื่องมือ เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษา

 

กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย (ส.ท.ท.) ในการดำเนินงานร่วมกันเพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้ความช่วยเหลือแก่เด็กและเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือด้อยโอกาส และผู้ด้อยโอกาส ให้เข้าถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา

 

นายพัฒนะพงษ์ สุขมะดัน ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา เปิดเผยว่า ปัจจุบันหนึ่งในภารกิจสำคัญของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องคือ ความพยายามในการช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่ครอบครัวมีฐานะยากจนพิเศษ ในกลุ่ม 20 เปอร์เซ็นต์ล่างสุดของประเทศให้ ได้รับการศึกษาจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นอย่างน้อย เพื่อจะได้มีความรู้ความสามารถในการออกไปประกอบอาชีพตามความถนัดและมีศักยภาพเพียงพอที่จะพึ่งพาตนเองในการดำรงชีวิตประจำวันอยู่ได้ ที่ผ่านมา (กสศ.) มีบทบาทหน้าที่ในการเหนี่ยวนำให้ทุกภาคส่วนได้เกิดความร่วมมือเพื่อช่วยกันกำหนดเป้าหมายต่อการพัฒนานโยบายลดความเหลี่อมล้ำสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา โดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มเด็กและเยาวชนที่ยังขาดโอกาสทางการศึกษามากที่สุด ถือว่าสอดคล้องกับบทบาทของเทศบาลทั่วประเทศที่มีหน้าที่สำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชน โดยครอบคลุมทั้งกลุ่มเด็กในระบบและนอกระบบการศึกษา ตลอดจนไปถึงเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษา

“ในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสมาคมสันนิบาตเทศบาลฯ และ (กสศ.) ในครั้งนี้ จะนำไปสู่ความร่วมมือสำคัญคือ

1.นำองค์ความรู้และนวัตกรรมที่ได้รับไปสู่วิธีการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และสร้างทางเลือกในการเข้าถึงการศึกษาให้มีความหลากหลายแก่เด็กและเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือด้อยโอกาส รวมถึงผู้ด้อยโอกาส นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อให้สอดคล้องกับบริบท และความต้องการที่แตกต่าง มีหลากหลายตามบริบทของพื้นที่นั้นๆ

 

2.วางกลไกการทำงานเพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาในระดับเทศบาล และ

 

3.สร้างความตระหนัก และการมีส่วนร่วมของภาคภาคีเครือข่ายในพื้นที่ เพื่อขับเคลื่อนการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาร่วมกัน” นายพัฒนะพงษ์ฯ กล่าว

 

นายพัฒนะพงษ์ฯ กล่าวอีกว่า ในนามของ (กสศ.) ขอขอบคุณ สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย คณะกรรมาธิการบริหารสมาคมสันนิบาตเทศบาลฯ ในการร่วมมือกันเพื่อจะทำงานช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือด้อยโอกาส ได้เข้าถึงระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาต่อไป

นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สมาคมสันนิบาตฯ เป็นศูนย์กลางของเทศบาลทั้งหมด ปัจจุบันมีสมาชิกถึง 2,400 แห่งทั่วประเทศ และเทศบาลทุกแห่งถือเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด ขณะเดียวกันเทศบาลต่างมีโรงเรียนที่อยู่ภายใต้การดูแลของเทศบาลเช่นกัน ดังนั้นในแง่พื้นฐานการทำงานของเทศบาลจะมีเรื่องของการจัดการศึกษา การดูแลพื้นที่ จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่มาร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคภาคทางการศึกษา เพราะ (กสศ.) มีนวัตกรรม ระบบการชี้เป้าถึงพื้นที่ การค้นหาเด็กยากจนด้อยโอกาส ประกอบกับเทศบาลมีทีมงานไม่ว่าจะเป็นกองสวัสดิการสังคม กองทุนสำนักงานการศึกษา สำหรับอออกไปทำงานค้นหาเด็กยากจนด้อยโอกาสร่วมกับ (กสศ.) ในอนาคต เพราะหลังจากค้นเด็กเจอแล้วจะมีการนำเด็กกลุ่มนี้กลับเข้ามาสู่ระบบการศึกษาให้มากที่สุด

 

“ต้องยอมรับว่าสังคมทุกวันนี้เป็นสังคมแห่งความรู้เมื่อใดก็ตามที่เด็กออกนอกระบบการศึกษาไปแล้วก็จะไม่มีอะไรช่วยให้เด็กมีหลักยึด สุดท้ายทำให้เกิดปัญหาสังคมตามมาในอนาคต ดังนั้นทางสมาคมสันนิบาตฯ จึงต้องพยายามติดตามเด็กกลับเข้าสู่ระบบให้มากที่สุด จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้สมาคมสันนิบาตเทศบาลฯ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา สำหรับทำงานร่วมกันสร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา” นายพงษ์ศักดิ์ฯ กล่าว

 

นายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย กล่าวทิ้งท้ายว่า ท้องถิ่นมีงบประมาณเช่นเดียวกับ (กสศ.) จะเป็นบทบาทสำคัญในการสนับสนุนงานท้องถิ่นร่วมกันเพื่อช่วยเหลือเด็ก และเยาวชนยากจนด้อยโอกาส และในอนาคตอาจมีการจัดตั้งกองทุนสำหรับช่วยเรื่องการให้ทุนการศึกษาเด็กตลอดจนไปถึงการฝึกสอนอบรมการออกไปประกกอบวิชาชีพได้ ทั้งหมดนี้หากเทศบาล 2,400 แห่งทั่วประเทศ สามารถทำงานตรงนี้อย่างเต็มที่ จะสามารถช่วยนำเด็กนอกระบบการศึกษากว่า 200,000 คน กลับเข้ามาสู่ระบบการศึกษาได้

สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน

ข่าวในหมวดเดียวกัน

เพิ่มเติม...

การเมือง

คอลัมนิสต์

คมในความ

มหาราษฎร์ Shorts

ภาพเก่าเล่าอดีต

ไฮไลท์

ข่าวประชาสัมพันธ์

ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

ท่องเที่ยว

ศาสนา

สุขภาพ

แวดวงนักรบ

สังคม

บทบาทบุคคล

< กลับหมวดข่าวประชาสัมพันธ์

เรื่องล่าสุด