ซ.ต.พ.?
นับถอยหลังอายุราชการที่ใกล้ครบวันเกษียณอายุราชการของ “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.คนที่ 12 สิ้นเดือนกันยายนนี้
มีคำถามพรั่งพรูมากมาย ว่า ตลอด 2 ปี ที่ “บิ๊กปั๊ด” ทำหน้าที่ ผบ.ตร. นั้น มีอะไร ?? ดีขึ้น และมีอะไร ?? ที่ยังต้องทิ้งไว้ให้ ผบ.ตร.คนใหม่ มาสานต่อบ้าง
ส่วนดีที่เห็นชัด คือ การปรับการทำงานทุกหน่วยงานของตำรวจ ไม่เว้นกระทั่งโรงพักใหญ่ – น้อย ให้ทำงานสอดรับก้าวทันโลกโซเชียล แม้บางหน่วยจะหางบประมาณมาเสริมแบบกระท่อนกระแท่น เก็บเล็กผสมน้อย เพื่อความอยู่รอด
จนแล้วจนรอด ก็ลุล่วงเดินหน้าก้าวสู่โลกโซเชียล ตามนโยบายนาย หลายแห่งมีหน้าตาไม่ตรงปก ทำแบบขอให้ผ่านไปที
สุกเอา เผากิน !!
แต่โครงการที่เข้าตา คือ การผลิตนักสืบไซเบอร์ นักสืบ 5 จี นับเป็นการพัฒนางานสืบสวนให้ก้าวทันโลก มีประสิทธิผล เป็นที่ยอมรับในสายตาสื่อมวลชนและประชาชนทั่วไปที่เข้าถึง
“ผบ.ปั๊ด” เป็นครูใหญ่ ผลิตนักสืบคุณภาพทั้งชายและหญิง ฝากชื่อในสาระบบได้อย่างสง่างาม แต่หลังการเกษียณอายุราชการไปแล้ว ประสิทธิภาพ การสานต่อจะต่อเนื่องขนาดไหน ?? ต้องรอการพิสูจน์ !!
อาชญากรรมในโลกไซเบอร์ปัจจุบันนี้ มันก่อความรุนแรงและทำลายล้างไปทุกหย่อมหญ้า สร้างความเดือดร้อนให้สุจริตชน
เป็นที่ประจักษ์ !!
นอกจากนี้เรื่องราวที่ยังต้องสะสางและท่านทิ้งไว้ คงมีอีกมิใช่น้อย ขอยกตัวอย่างสำคัญ ๆ บางเรื่อง อะทิเช่น คดีการสอบสวนทุจริตกองบินตำรวจ ที่คาราคาซัง มา 2 รุ่น ผบ.ตร.แล้ว การรับบุคคลภายนอกเข้าเป็นตำรวจแบบค้านสายตาชาวบ้าน อย่าง ส.ต.ท.หญิง(เจ๊นุช) คนดัง และอาจจะมีหมกหรือซุกใต้พรมไว้อีกไม่น้อย
การสอบสวนที่ยังถูกดองไว้ ในเรื่องของการจัดซื้อเครื่องตรวจอัตลักษณ์บุคคลของสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง การเช่ารถ และการซ่อมบำรุงในโครงการจัดซื้อจัดจ้างหลายรายการที่ยังทิ้งเรื่องราวไว้ให้สะสาง
ที่สำคัญปัญหาการปราบปรามยาเสพติด ปัจจุบันนี้ไม่ครอบคลุมทั้งระบบ มุ่งเน้นแต่การปราบปรามกลุ่มผู้ค้ารายใหญ่และการยึดทรัพย์ แต่กลับมองข้ามความปลอดภัยในสวัสดิภาพประชาชนส่วนใหญ่ โดยไม่ปราบปรามแบบควบคู่กันไป นั่นก็คือ ปล่อยผู้ค้ายารายย่อย ขายเกลื่อนเมือง ราคาถูก เป็นยุคที่หายาเสพติดมาเสพง่ายดายมาก
ภาพการอาละวาดของทาสยา ทำปิตุฆาต ฆ่าพ่อฆ่าแม่ พี่น้องและญาติผู้ใหญ่ ทำร้ายผู้บริสุทธ์ เผาบ้าน เผารถ เผาเรือน
มีภาพข่าวปรากฎทุกวันทางสื่อมวลชน แต่หาคนรับผิดชอบมาแก้ใข หรือปราบปรามจริงจัง ไม่ได้
เป็นจุดบกพร่อง รอยด่างที่เห็นเด่นชัด ชี้ไปถึงการทำงานปราบปรามยาเสพติดที่ล้มเหลวในยุค “ผบ.ปั๊ด”
นับจากวันที่ 1 ตุลาคม นี้ ตำรวจกว่า 2 แสนชีวิต จะมีนายคนใหม่ คือ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ หรือ “บิ๊กเด่น” เป็นผบ.ตร.คนที่ 13
เปลี่ยนนาย เปลี่ยนนโยบาย เราคงเห็นความเปลี่ยนแปลงบางเรื่องแน่
ทิศทางจะดีขึ้น หรือแย่ลง ขึ้นอยู่กับเจ้าของนโยบายที่บริหารอยู่บนบัลลังก์ “พิทักษ์ 1” จะเข้มข้นจริงจังขนาดไหน ??
เป็นบทพิสูจน์ ที่ต้องรอคำตอบ แม้จะมีระยะเวลาเพียง 1 ปี นับจากเดือนตุลาคมปีนี้ก็ตาม
ซ.ต.พ. ซึ่งต้องพิสูจน์
จะช้าหรือเร็ว คงได้เห็นความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น.
………………………….
อิทธิเดช ลุย.
ติดตามข่าวสารทั่วไป http://kardchuek.net.