เกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่ จ.เพชรบูรณ์ ขณะนี้สถานการณ์ปกติแล้ว อยู่ระหว่างเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่อไป

วันนี้ 4 ก.ย. 65 นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยถึงกรณี สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เนื่องจากฝนตกหนักในพื้นที่อำเภอเขาค้อ ทำให้เกิดน้ำไหลหลากจากห้วยทราย ต.นางั่ว อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ ส่งผลกระทบในหลายพื้นที่ โดยเมื่อประมาณ 20.00 น. สถานการณ์น้ำอยู่ในภาวะปกติเเล้ว

นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. นายนพดล คำนึงเนตร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสารภัยจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้มีหนังสือ รายงานเหตุด่วนสาธารณภัยเเจ้งมายังจังหวัดเพชรบูรณ์ ทราบว่า เนื่องจากฝนตกหนักในพื้นที่อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ทำให้น้ำจากห้วยทรายไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ หมู่ 3, 4, 6, 8, 9, 10 และ 11 ตำบลนางั่ว อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบูรณ์ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและสำรวจความเสียหาย คาดว่าสถานการณ์ทรงตัวและคาดว่าจะคลี่คลายภายใน 4 ชั่วโมง

ต่อมาเวลาประมาณ 20.00 น. ได้รับรายงานว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสาสมัครกู้ภัย และ เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิฯ ในพื้นที่ ช่วยอำนวยความสะดวกด้านจราจร ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นำโดยนายชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล นายอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ได้ให้ความช่วยเหลือ แจกจ่ายข้าวกล่องให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่จำนวน 200 กล่อง พร้อมทั้ง ยังได้ให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกร ทั้งเกษตรกรผู้ปลูกพืชสวน พืชไร่ และนาข้าว ในการสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบราชการต่อไป

นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวต่อว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ได้มีประกาศ ฉบับที่ 3 (227/2565) ในช่วงวันที่ 5 – 9 กันายน 2565 ร่องมรสุมกำลังแรงจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้  ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เฝ้าระวัง เหตุการณ์พายุฝน อุทกภัยที่จะตามมาในระยะต่อไป และแจ้งเตือนสร้างการรับรู้ให้กับพี่น้องประชาชน โดยติดตามการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา และติดตามการแจ้งภัยข่าวเตือนของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อย่างใกล้ชิด ทั้งช่องทางไลน์ @1784ddpm และช่องทางอื่น ๆ โดยหากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ ติดต่อสายด่วนสาธารณภัย 1784 สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 และกรณีต้องการรถพยาบาล ติดต่อสายด่วน 1669 เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที