“บิ๊กราญ ผบช.น.” ร่วมแถลงข่าวปิดล้อมตรวจยึดทรัพย์ เครือข่ายยาเสพติดมินมินอู

ตามนโยบายของรัฐบาล ให้เจ้าหน้าที่ของภาครัฐปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมาย เนื่องจากการแพร่ระบาดของยาเสพติดซึ่งเป็นภัยคุกคามและอาชญากรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน ได้สร้างผลกระทบต่อประชาชน และสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งรัดติดตามจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดอย่างจริงจัง

วันที่ 19 ส.ค.65 เวลา 13.30 น. ณ ลานอเนกประสงค์ บช.น. : กองบัญชาการตำรวจนครบาล นำโดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./โฆษก บช.น., พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2, พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ., เจ้าหน้าที่ตำรวจ 191, บก.น.2 และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นำกำลังเข้าร่วมปฏิบัติการ ปิดล้อมตรวจค้นเพื่อปราบปรามกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เชื่อมโยงระหว่างประเทศ รวมทั้งหลายพื้นที่ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และภาคใต้ โดยในวันนี้มีการปฏิบัติในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทำการปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จำนวน 13 เป้าหมาย

ได้ทรัพย์สินเพิ่มเติมมูลค่ากว่า 93 ล้าน ประกอบด้วย เงินบาทไทย จำนวน 4.2 ล้านบาท, เงินดอลล่าร์สหรัฐ 7 หมื่น เหรียญ คิดเป็นเงินไทย 2.45 ล้านบาท, รถยนต์ตู้อัลพาร์ด จำนวน 1 คัน, ตู้เซฟเปิดไม่ได้ จำนวน 3 ตู้, โฉนดคอนโดฯ จำนวน 19 ห้อง, พาสปอร์ต จำนวน 16 เล่ม, สมุดบัญชี จำนวน 53 เล่ม รวมทั้งสิ้น 7 รายการ ซึ่งจะดำเนินการตรวจสอบอายัดต่อไป

โดยก่อนหน้านี้มีการจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่าย เบื้องต้น 31 ราย ยึดของกลาง ยาบ้า เบื้องต้น 22 ล้านเม็ด ไอซ์ เบื้องต้น 600 กิโลกรัม และได้มีการอายัดทรัพย์ไปแล้วเบื้องต้น 385 ล้านบาท ได้แก่ คอนโด และสัญญาเช่า ทั้งหมด 127 ล้านบาท เงินในบัญชี 73 ล้านบาท บ้านมูลค่า 180 ล้านบาท ซึ่งจากการขยายผลเพิ่มเติมมูลค่าทรัพย์สินจากเครือข่ายนี้มีมากถึง 1,000 ล้านบาท

บช.น. ขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปฏิบัติหน้าที่ในการบำบัดทุกข์และบำรุงสุขให้แก่พี่น้องประชาชน หากพบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด โปรดแจ้งสายด่วน 191 หรือสถานีตำรวจท้องที่

Cr.ทีมงานประชาสัมพันธ์ บช.น.
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน