“วัชระ” ร้องลุงตู่ หยุดขึ้นราคาไข่ไก่-บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซ้ำเติมค่าครองชีพ ปชช.
วันที่ 17 ส.ค.65 เวลา 14.45 น.ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือผ่านนายพันศักดิ์ เจริญ ผู้เชี่ยวชาญมวลชน สำนักปลัดนายกรัฐมนตรี พร้อมนำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหลายยี่ห้อ จำนวน 30 ซองให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยขอให้พิจารณาระงับการขึ้นราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจากซองละ 6 บาท เป็น 8 บาท และไข่ไก่ที่จะขึ้นราคาอีกฟองละ 10 สตางค์ โดยนายกรัฐมนตรีได้แสดงความเห็นอกเห็นใจบริษัทผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปว่าไม่ได้ขึ้นราคามานานแล้ว รวมถึงเครือข่ายสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ออกประกาศแจ้งสมาชิกและเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ปรับขึ้นราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์ม 10 สตางค์ต่อฟอง หรือ 3 บาทต่อแผง (30ฟอง) จาก 3.50 บาท เป็น 3.60 บาทต่อฟอง สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ โดยอ้างเหตุต้นทุนการผลิตที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น
นายวัชระฯ กล่าวว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนว่าได้รับความเดือดร้อนจากสภาพปัญหาทางเศรษฐกิจและโรคระบาดโควิด-19 ทำให้มีภาระค่าครองชีพสูงขึ้น การใช้ชีวิตประจำวันเป็นไปด้วยความยากลำบาก รถเมล์ธรรมดาถูกยกเลิกทั้งกรุงเทพฯ ทำให้ค่าเดินทางแพงขึ้น โจรผู้ร้ายชุกชุม ยาบ้าระบาดทุกชุมชน จึงขอคัดค้านการขึ้นราคาไข่ไก่และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และหากรัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์อนุมัติให้ผู้ประกอบการปรับขึ้นราคาตามที่ผู้ประกอบการร้องขอก็จะเป็นการซ้ำเติมและผลักภาระให้กับประชาชนทั้งประเทศ
ดังนั้น เพื่อบรรเทาปัญหาทางเศรษฐกิจของประชาชนจึงขอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ระงับการขึ้นราคาสินค้าที่จำเป็นทั้ง 2 ชนิดนี้ โดยเฉพาะไข่ไก่ควรลดราคาลงเหลือฟองละ 3 บาท ทั้งนี้ หากนายกรัฐมนตรีต้องการจะช่วยผู้ประกอบการผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ควรขอให้ลดอัตราภาษีในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโรงงาน แทนที่จะให้อนุมัติขึ้นราคาก็จะเป็นทางออกให้กับการแก้ไขปัญหานี้ ส่วนปัญหาไข่ไก่ รัฐบาลควรเจรจากับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าให้ขึ้นราคา ก็จะสามารถช่วยคลายความทุกข์ยากให้ประชาชนทั่วประเทศได้ในระดับหนึ่ง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน