(13 ส.ค. 65) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกพรรคภูมิใจไทยได้ออกมาให้ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ว่า
หลักการพื้นฐานในการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง การตั้งเป้าหมายเพื่อให้ชนะการเลือกตั้งเพื่อจะได้เข้ามาทำงานให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศคือสิ่งสำคัญ การเมืองที่ล้าหลังและเลวร้ายที่สุดคือการเล่นการเมืองแบบใส่ร้ายป้ายสี กล่าวหาบุคคลอื่นเพื่อตีกินในทางการเมือง พูดจาด้อยค่าพรรคการเมืองอื่น การมีวิวาทะกันในทางการเมืองเป็นเรื่องปกติก็ชี้แจงกันเป็นเรื่องๆเป็นกรณีไป ใครพาดพิงใครก็ว่ากันไปในตัวบุคคล แต่จะไปพาดพิงด้อยค่าพรรคการเมืองอื่นไม่ใช่วิสัยของนักการเมืองที่พึงกระทำ แต่ละพรรคใครจะประกาศคว้าชัยในพื้นที่กี่ที่นั่ง ได้ ส.ส.กี่คนสามารถทำได้พูดได้หมด ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยก็มีสิทธิประกาศยุทธศาสตร์ได้ แต่ท้ายที่สุด ประชาชนจะเป็นผู้ให้คำตอบ ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เรามีความมั่นใจในพื้นที่ภาคใต้ จากการทำงานให้กับประชาชน มีผลงานที่ปรากฏชัด และมีความยั่งยืน ผู้สมัครทุกเขตอยู่ชิดติดพื้นที่ ประชาชนสัมผัสได้ เชื่อมั่นว่าจะมีจำนวน ส.ส.เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน
ในส่วนที่สมาชิกพรรคภูมิใจไทยได้กล่าวพาดพิงนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ในเรื่องพื้นที่เขตเลือกตั้งจังหวัดพังงาว่าไม่มีความรับผิดชอบนั้น เอาเป็นว่าเป็นเรื่องภายในพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีวิธีการในการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง นายจุรินทร์เป็นหัวหน้าพรรคเป็นนักการเมืองมาอย่างยาวนาน มีความรับผิดชอบไม่ต้องมากังวลแทนพรรค และเชื่อมั่นประชาชนจังหวัดพังงาจะวางใจสนับสนุนผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ แต่ในส่วนพรรคไหนจะส่งใครลงเขตไหนจังหวัดใดบ้าง ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์มีหลักการชัดคือจะไม่ไปก้าวก่ายใคร คือจะไม่ไปยุ่งเรื่องของพรรคอื่น ก็ต้องไปเปิดพจนานุกรมดูว่าไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่นความหมายของคำว่าอะไร พรรคไหนจะอ้างว่าตนเป็นราชสีห์ เป็นสัตว์ประเภทใดก็ว่ากันไป แต่ที่น่าแปลกใจคือความจริงแล้วราชสีห์ไม่น่าจะเห่าเป็นเท่านั้นเอง
#ราเมศรัตนะเชวง
#โฆษกพรรคประชาธิปัตย์
#พรรคประชาธิปัตย์