รองผู้ว่าฯ การไฟฟ้านครหลวง และ โฆษก MEA ได้ลงพื้นที่มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับกลุ่มร้านค้าจากกรณีเหตุเพลิงไหม้บริเวณสำเพ็ง จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บอีก 11 คน และทรัพย์สินเสียหาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมานั้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 มิถุนายน 2565 : นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน รองผู้ว่าการ การไฟฟ้านครหลวง และ โฆษก MEA ได้ลงพื้นที่มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับกลุ่มร้านค้ารถเข็นซึ่งได้แจ้งความและประเมินค่าเสียหายในวันเกิดเหตุไว้ที่ สน.จักรวรรดิ จำนวน 3 ราย ได้แก่ นางรำไพ ซาววงศ์ จำนวนเงิน 17,000 บาท, นางสาวสมใจ โสพิษ จำนวนเงิน 6,000 บาท และนางแพง อรสาม จำนวนเงิน 13,000 บาท โดยมี พล.ต.ต.สรเสริญ ใช้สถิตย์ ผบก.น.6 และ พ.ต.อ.นนท์ นุ่มบุญนำ รรท.ผกก.สน.จักรวรรดิ ร่วมประสานงานและดำเนินการกับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน
นายจาตุรงค์ฯ กล่าวว่า การไฟฟ้านครหลวงขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ทาง กฟน.ได้ดำเนินมาตรการเยียวยาเร่งด่วน เพื่อให้ผู้ประสบเหตุได้รับความช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยไม่รอกระบวนการพิสูจน์หลักฐาน ล่าสุด นอกจากผู้เสียหายในกลุ่มร้านค้ารถเข็นแล้ว ได้ติดต่อให้ความช่วยเหลือกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และอยู่ระหว่างการติดต่อให้ความช่วยเหลือกับผู้ได้รับผลกระทบในกลุ่มอื่น ๆ ให้ได้มากที่สุดเท่าที่สามารถดำเนินการได้และเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับ ขณะที่ด้านกระบวนการทางกฎหมาย ยังต้องรอผลการตรวจสอบหาสาเหตุของเพลิงไหม้ และมูลค่าความเสียหาย เพื่อให้ความเป็นธรรมสูงสุดต่อผู้ได้รับผลกระทบ
นายจาตุรงค์ฯ ยืนยันว่า การไฟฟ้านครหลวง จะปรับปรุงแก้ไขปัญหาร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อหาทางป้องกันไม่ให้เหตุสูญเสียเกิดขึ้นอีก โดยมีมาตรการทบทวนแผนการบำรุงดูแลรักษาอุปกรณ์ เพิ่มความถี่ในการตรวจสอบ นำนวัตกรรมการแจ้งเตือนเหตุสำหรับหม้อแปลงไฟฟ้ามาใช้เพิ่มเติมจากระบบเดิมที่มีอยู่ พร้อมเร่งตรวจสอบดูแลระบบไฟฟ้ารวมถึงจุดเสี่ยงต่าง ๆ และจัดระเบียบสายสื่อสารร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่รับผิดชอบ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของประชาชน ส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบไม่จำเป็นต้องเดินทางมาด้วยตัวเอง ให้โทรไปยังสายตรงของสำนักงานเขตที่อาศัย จากนั้นรวบรวมค่าความเสียหายที่รวบรวมได้ เพื่อแจ้งกับเจ้าหน้าที่ ส่วนในเรื่องประกัน หากผู้เสียหายทำประกันรถ หรือ บ้านไว้ ก็สามารถแจ้งกับประกันภัยไว้ได้เลย หลังจากนั้นทางประกันภัยจะทำเรื่องมายังการไฟฟ้าต่อไป
นายจาตุรงค์ฯ กล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกิดขึ้น เมื่อได้ดูจากคลิปบันทึกเหตุการณ์ เห็นกลุ่มควันที่เกิดขึ้นจากด้านหลังหม้อแปลง ซึ่งปกติหม้อแปลงจะไม่มีควันขึ้นแบบนี้ เพราะหม้อแปลงเป็นโครงเหล็ก โดยตามหลักแล้ว ภายในหม้อแปลงจะมีระบบป้องกัน มีการระบายความร้อน หากเกิดความร้อนสูงระบบก็จะตัดอัตโนมัติ จึงสงสัยว่าควันเกิดขึ้นได้อย่างไร ต้องดูจากกล้องวงจรปิดบริเวนข้างเคียง แต่ทั้งนี้ ไม่ได้จะปัดความรับผิดชอบ แต่จะขอเยียวยาค่าเสียหายเบื้องต้นไปก่อน สำหรับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถประกอบอาชีพได้
นายจาตุรงค์ฯ เผยอีกว่า นอกจากนี้ทราบว่า เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา มีควันเกิดขึ้นที่สายไฟฟ้า ใกล้กับจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ จนทำให้ประชาชนเกิดความวิตกกังวลกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิม แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบก็พบว่า เป็นไฟช็อตที่สายไฟฟ้าตามปกติ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็เมื่อตรวจเชิงลึกพบว่า มีการลักลอบเดินสายไฟจากบ้านหลังหนึ่งไปที่สายไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต การกระทำลักษณะนี้เป็นอันตรายที่จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง เจ้าหน้าที่จึงได้ตัดสายไฟออก ส่วนตัวเจ้าของสายขณะนี้ยังไม่พบแต่อย่างใด ทั้งนี้หากต้องการเดินสายไฟ
นายจาตุรงค์ฯ กล่าวว่า อุปกรณ์ต่าง ๆ ของทางการไฟฟ้าไม่ควรนำมาดัดแปลง เพราะจะทำให้เกิดอันตรายได้ ในส่วนของสายไฟบนเสานั้น ของการไฟฟ้ามีเพียงแค่ 7 สาย คือ 3 สายบนสุด และ 4 สายที่อยู่ถัดลงมา ส่วนที่อยู่ต่ำกว่านั้น คือสายสื่อสารจากผู้ประกอบการโทรคมนาคม โดยหากจะมีการเดินสายต้องแจ้งไปทาง (กสทช.) ให้รับทราบ แล้วจึงมาขออนุญาตกับทางการไฟฟ้า จึงจะทำได้ แต่พบว่ามีบางรายไม่ได้ขออนุญาต และมีการเพิ่มจำนวนสายสื่อสารในจุดต่าง ๆ ซึ่งในการเพิ่มสายสื่อสารนี้ บางครั้งก็จะทิ้งสายเดิมไว้ หรือที่เรียกว่า สายตาย จนทำให้มีสายเคเบิ้ลรกรุงรังเป็นจำนวนมาก โดยหากพบว่ามีการกระทำดังกล่าวก็จะสามารถแจ้งความดำเนินคดีได้
นายจาตุรงค์ฯ กล่าวว่า MEA มีความพร้อมดูแลระบบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ให้มีความเพียงพอ มั่นคง ปลอดภัย และพร้อมให้บริการแก้ไขไฟฟ้าขัดข้อง สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้ ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ได้แก่ Facebook : การไฟฟ้านครหลวง MEA, Line : MEA Connect, Twitter : @mea_news, Instagram : meafanclub และศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง MEA Call Center 1130
ด้าน นางรำไพ ซาววงศ์ อายุ 55 ปี กล่าวว่า ตนเป็นแม่ค้าขายกาแฟโบราณ อยู่หน้าตึกแถวที่เกิดเหตุ มากว่า 20 ปี ในวันดังกล่าว ขณะกำลังขายของอยู่ เห็นควันลอยออกมาจากหม้อแปลงผิดปกติ จึงรีบหมุนรถเข็นเตรียมที่จะเข็นออกจากจุดดังกล่าว ก่อนจะมีคนตะโกนว่า มีน้ำอะไรบางอย่างหยดลงมา ตนก็กำลังจะรีบเข็นรถออก แต่ไม่ทัน อยู่ ๆ เกิดเพลิงปะทุขึ้นที่หม้อแปลง จึงรีบวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ไม่ทันได้เข็นรถออกมาด้วย ทำให้ข้าวของในรถเสียหายทั้งหมด วันนี้ได้รับเงินเยียวยาทั้งสิ้น 17,000 บาท ก็รู้สึกพึงพอใจ เพราะหลังจากที่เกิดเหตุไฟไหม้ ก็ไม่ได้ขายของมาหลายวันทำให้ขาดรายได้ หลังจากนี้จะนำเงินจำนวนนี้ไปซื้ออุปกรณ์ขายของใหม่ แล้วก็คงจะกลับไปขายในระแวกเดิม เพราะขายที่นั่นมานานแล้ว
นางรำไพฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมาหม้อแปลงดังกล่าวไม่เคยเกิดความเสียหาย หรือ ช็อตแต่อย่างใด นอกจากนี้ก็มีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบตลอด หลังจากนี้อยากให้เจ้าหน้าที่เข้ามาจัดระเบียบสายไฟ และ ดูแลให้ดีกว่านี้ จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน