สุขภาพ

ระวัง! 4 โรคฮิตที่มากับสายฝน


5 มิถุนายน 2022, 13:43 น.

 

สายฝนอาจมีผลต่อความรู้สึก นอกจากจะต้องระวังเรื่องของอารมณ์ที่พลิ้วไหวแล้ว สภาพอากาศที่มีความชื้นสูงและอุณหภูมิที่ลดต่ำลงเรื่อย ๆ แบบนี้ เมื่อฝนเริ่มมาและอาการป่วยไข้เริ่มถามหา หากต้องกินยาลดไข้ควรปรึกษาแพทย์จะดีที่สุด หน้าฝนยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหลายชนิด แต่ละปีมีผู้ป่วยนับแสนราย จะมีโรคอะไรที่มากับหน้าฝนบ้างนะ

 

1.) โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน กลุ่มโรคติดต่อของระบบทางเดินอาหารที่พบบ่อย เกิดจากการรับประทานอาหารที่มีการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหารที่ลำไส้ รวมไปถึงโรคบิด ไทฟอยด์ อาหารเป็นพิษ

 

อาการ :  ท้องเสีย ถ่ายเหลวเป็นน้ำ อาจมีไข้ ปวดบิดในท้อง และหากติดเชื้อ บิดอาจมีมูกหรือเลือดอุจจาระปนได้

 

คำแนะนำ : กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ

 

2.) โรคไข้หวัดใหญ่ กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจที่พบบ่อย ซึ่งปัจจุบันมีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ H3N2 และโรคไข้หวัดนกที่มีแหล่งแพร่ระบาดมาจากสัตว์ปีก เชื้ออาจมีการผสมข้ามสายพันธุ์กับเชื้อไข้หวัดใหญ่ในคนที่อยู่ในช่วงระบาดในฤดูฝนได้

 

อาการ : ไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีน้ำมูกและไอร่วมด้วย ภาวะแทรกซ้อนที่มักพบในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงคือ ภาวะปอดอักเสบ

 

คำแนะนำ :  ใช้ผ้าปิดจมูก ล้างมือบ่อย ๆ

 

3.) โรคฉี่หนู (Leptospirosis) กลุ่มโรคติดเชื้อผ่านทางบาดแผลหรือเยื่อบุผิวหนัง มักพบการติดเชื้อชนิดนี้ได้ในสุนัขหรือสัตว์ตามฟาร์ม เช่น สุกร โค กระบือ รวมถึงสัตว์จำพวกหนู ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ คือ เกษตรกร คนงานฟาร์มเลี้ยงสัตว์ คนหาปลาตามแหล่งน้ำจืด ผู้ที่ทำงานขุดท่อระบายน้ำ และคนที่ย่ำน้ำในที่น้ำท่วมขังนาน ๆ เป็นต้น

 

อาการ : ไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ มักปวดกล้ามเนื้อบริเวณน่องและโคนขาอย่างรุนแรง ตาแดง ประมาณร้อยละ 5-10 ของผู้ป่วยโรคนี้อาจมีอาการรุนแรง เช่น ดีซ่าน ไตวาย หรือช็อกได้

 

คำแนะนำ : ไม่ลุยน้ำขัง ใส่รองเท้าบูท

 

4.) โรคไข้เลือดออก กลุ่มโรคที่มาจากยุง มียุงลายเป็นพาหะนำโรค ซึ่งกว่าร้อยละ 80 เป็นยุงลายที่อยู่ในบ้าน ซึ่งจะวางไข่ในน้ำที่ขังอยู่ตามที่ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีโรคไข้สมองอักเสบเจอี (Japanese Encephalitis) และโรคมาลาเรียที่ต้องระวัง

 

อาการ : ผู้ป่วยระยะแรกจะมีอาการเหมือนการติดเชื้อไวรัสทั่วไป ได้แก่ อาการไข้ปวดเมื่อยตามตัว อาจมีอาการปวดกระดูกมาก ไข้จะสูงอยู่ประมาณ 2-7 วัน หลังจากนั้นไข้จะลดลง พร้อมกับอาการเลือดออกผิดปกติ มือเท้าเย็นหรือช็อกได้

 

คำแนะนำ : ทายากันยุง อยู่ห่างจากที่ยุงชุม กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์

 

นอกจากนี้หากโดนน้ำสกปรกกระเด็นเข้าตา อาจทำให้เป็นโรคตาแดงหรือโรคเยื่อบุตาอักเสบ หรือการแช่น้ำสกปรกนาน ๆ ก็เป็นที่มาของปัญหาน้ำกัดเท้าที่เกิดจากเชื้อราได้เช่นกัน เมื่อฝนเริ่มมาและอาการป่วยไข้เริ่มถามหา หากต้องกินยาลดไข้ควรปรึกษาแพทย์จะดีที่สุด ห้ามกินยาในกลุ่มแอสไพรินอย่างเด็ดขาด เพราะมีอันตรายกับบางโรค คือโรคไข้เลือดออก โรคไข้หวัดใหญ่ และโรคฉี่หนู ซึ่งมีอันตรายร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

 

ข้อมูล : เกร็ดความรู้สุขภาพ จาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

ข่าวในหมวดเดียวกัน

เพิ่มเติม...

การเมือง

คอลัมนิสต์

คมในความ

มหาราษฎร์ Shorts

ภาพเก่าเล่าอดีต

ไฮไลท์

ข่าวประชาสัมพันธ์

ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

ท่องเที่ยว

ศาสนา

สุขภาพ

แวดวงนักรบ

สังคม

บทบาทบุคคล

< กลับหมวดสุขภาพ

เรื่องล่าสุด