<เรื่องที่ 1>
พรรคพวกมาปรึกษาผม
อ้างว่า
<ผู้สูงศักดิ์ อยากช่วยเหลือชาวบ้านยากจน แต่ไม่กล้าแจกเงิน จึงใช้วิธีให้ชาวบ้านเอาเงินมาฝาก แล้วจะให้ดอกเบี้ยสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด 2-3 เท่าตัว ภายใน 7 วัน รับเงินคืนได้ ฝากมากได้ดอกเบี้ยมาก ถ้าช่วยหาคนมาฝาก ก็จะได้เงินรางวัลเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดเงินที่คนนั้นฝากอีก หาคนมาฝากได้มาก ก็จะได้เงินเปอร์เซ็นต์มาก>
ผมเตือนไปว่าหลอกลวง ไม่เชื่อผม ไปลงทุนฝากเงิน และชักชวนคนไปเล่นอีก สุดท้าย สูญเสียเงินกันโดยถ้วนหน้า ไปแจ้งความร้องทุกข์ เงินเหลือแต่เงาแถมถูกแจ้งว่าเป็นตัวการหลอกชาวบ้านด้วย
<เรื่องที่สอง>
มีคนรู้จักกัน พาตัวการในระดับหนึ่ง มาคุยกับผมเอง คล้ายกับเรื่องแรก
อ้างว่า
<นายทุนเป็นคนมีเงินมากอยากแบ่งเงินให้ชาวบ้านยากจนใช้แต่ไม่กล้าให้ฟรี ๆ กลัวถูกตรวจสอบขอให้ชาวบ้านเอาเงินมาฝาก แล้วจะให้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยอัตราสูงกลับไป>
ผมบอกว่า<เป็นเรื่องหลอกลวง>คนรู้จักกันไม่เชื่อผม ยังยืนยันว่า<มีคนได้เงินไปเยอะแล้ว>
ผมถามว่า<เคยเห็นยอดเงินที่เขาได้มั้ย ? หรือว่าฟังแต่เขาพูด>
ผมสรุปว่า<ถ้าเขาบอกว่าลงทุนแล้ว ได้เงินได้กำไรจริงก็ให้เขาลงทุนให้ดูก่อนให้ไปขายไร่ ขายนา ขายบ้าน ขายที่ดิน แล้วเอาเงินไปลงทุน ถ้าตรวจสอบแล้วได้กำไรจริงเหมือนที่พูดจึงลงทุนภายหลัง>
คนรู้จักกันเชื่อผม ส่วนตัวการที่ชักชวนนั้น บอกว่าจะไปขายทรัพย์สินเพื่อเอาไปลงทุน กรรมใครก็กรรมมันครับ
<เรื่องที่สาม>
ลงทุนซื้อเครื่องประดับแล้วเอาไปขายต่อปัญหามันอยู่ตรงที่ เครื่องประดับเป็นของเก๊ ทองเก๊ พลอยเก๊ เพชรเก๊ ราคาต้นทุนไม่เกิน 1,000 บาท แต่ต้องซื้อในราคาเป็นหมื่นบาทเพื่อเอาไปให้คนอื่นดูแล้วชักชวนคนเหล่านั้นให้มาซื้อหาคนมาซื้อได้มาก ก็ได้เงินเปอร์เซ็นต์มาก
สรุปว่า เน้นไปที่หาคนซื้อ ไม่ได้เน้นขายของ เพราะของมันขายไม่ได้อยู่แล้ว หลอกลวงชัด ๆ
ผม ผกก.สภ… เป็นคนเปิดประเด็นในที่ประชุม ผบก.ภ.จว.ฯ ได้สั่งการให้ ปราบปรามเด็ดขาด ไปตรวจสอบถึงแหล่งผลิตแถวงามวงศ์วาน ทลายได้ทั้งแก๊ง
<เรื่องที่สี่>
ระหว่างที่ผมรอบรรยายชาวบ้านช่วงบ่าย ก่อนเที่ยง ได้ไปฟังคนพูดเรื่องปุ๋ยปูแดงให้ชาวบ้านอีกกลุ่มหนึ่งฟัง เขาอธิบายว่า
<มันเป็นปุ๋ยวิเศษใส่ต้นไม้ ต้นไม้โต และมีขนาดใหญ่กว่าปกติ ใส่ไม้ผล จะได้ผลมากขึ้นสองสามเท่า ใส่นา ข้าวจะดก มีผลผลิตมากกว่าใส่ปุ๋ยอื่นหลายเท่า>
ชาวบ้านทุกคนฟังอย่างสนใจ เขาพูดต่อไปว่า<ขณะนี้ต่างประเทศ สั่งปุ๋ยปูแดงไปเป็นจำนวนมาก จนผลิตแทบไม่ทัน>
และพูดอีกว่า<รู้มั้ย ชาวนาทางภาคกลาง ตอนนี้เลิกทำนากันแล้ว ต่างพากันเป็นตัวแทนขายปุ๋ยปูแดง เพราะได้เงินเปอร์เซ็นต์มาก และไม่ต้องเหนื่อยยากลำบากเหมือนทำนา>
เสียงผู้คนเริ่มฮือฮา ผมถามไปว่า<จดทะเบียนการค้าหรือเปล่า ขอดูหน่อย>
เขาบอกว่า<จด แต่ไม่ได้นำมา>
ผมพูดว่า<ถ้าของมันดีอย่างนี้ ทำไมรัฐบาลไม่สนับสนุนทำไมไม่เห็นมีโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางสื่อต่าง ๆ เริ่มต้น ด้วยการพูดถึงคุณภาพเกินจริงของปุ๋ยปูแดงสำหรับใส่เรือกสวนไร่นา แต่พอลงท้าย จะให้ชาวบ้านเป็นคนซื้อเพื่อเอาไปขายต่อ ชาวบ้านจะมีรายได้จากการขายปุ๋ยแทนการทำนา มันเป็นแบบแชร์ลูกโซ่ หลอกลวง ผิดกฎหมาย>
ชาวบ้านทุกคนมองมาที่ผม ผมพูดทิ้งท้ายว่า<ผมเป็นพนักงานสอบสวนของ ตร. บช.น. เคยสอบคดีแชร์มาแล้วเรื่องนี้หลอกลวงแน่นอน>
ต่อมาอีกไม่นานได้ข่าวว่า ขบวนการปุ๋ยปูแดง โดนตำรวจนครบาลบุกทลายราบคาบเพราะฉ้อโกงประชาชน
————-
ทั้งสี่เรื่องนี้ บันทึกมาจากความทรงจำช่วงรับราชการเป็นตำรวจ อาจจะเป็นข้อคิดสะกิดใจได้บ้าง ถ้ามีประโยชน์ ก็บอกเล่าต่อไปครับ
พล.ต.ต.ไอยศูรย์ สิงหนาท