“อันที่สุดของไทยนั้นคือชาติ หากพินาศแล้วใครอยู่ได้หนอ”
วันนี้ผมได้รับเกียรติ จากผู้ใหญ่ในวงการสื่อมวลชนท่านหนึ่ง มาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน มีคำถามหนึ่ง ที่ท่านถามผมว่า มาทำงานการเมืองแล้ว รู้สึกอย่างไร เป็นทหารกับเป็นนักการเมือง มองต่างกันอย่างไร คิดอย่างไรที่นักการเมืองบางส่วนมองว่าทหารเป็นอุปสรรคทางการเมือง หลังจากผมฟังคำถามแล้ว ในขณะที่ผมนิ่งคิดเพื่อหาคำตอบนั้น ข้อความส่วนหนึ่งในเพลง เรา-เหล่าราบ 21 ก็ผุดขึ้นมาในหัวผม ซึ่งผมคิดว่านี่คือคำตอบในมุมมองความคิดของผม
“อันที่ที่สุดของไทยนั้นคือชาติ หากพินาศแล้วใครอยู่ได้หนอ”
นั่นคือทหารมองความมั่นคงของประเทศชาติเป็นอันดับหนึ่ง นักธุรกิจอาจจะมองความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจเป็นอันดับหนึ่ง นักการเมืองอาจจะมองเสถียรภาพของรัฐบาลเป็นอันดับหนึ่ง แต่ สำหรับทหารแล้ว ผมคิดว่า ความเป็นชาติเป็นสิ่งที่สำคัญสูงสุด แน่นอนครับ ทุกสิ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของพลังอำนาจของชาติ เพียงแต่ ใครจะให้น้ำหนักความสำคัญที่สิ่งใดมากกว่ากัน
การฝึกสอนและปลูกฝังความคิดของทหาร ทุกระดับชั้น ตั้งแต่การฝึกพลทหาร นายสิบ นายร้อย นายพัน คำสอนทุกคำ มีแต่คำว่า ประเทศชาติและประชาชน เป็นสิ่งที่จะต้องรักษาไว้ แม้จะต้องแลกมาด้วยเลือดเนื้อและชีวิต สอนให้เป็นสุภาพบุรุษและเสียสละ โรงเรียนนายสิบ โรงเรียนเตรียมทหาร โรงเรียนนายร้อย ไม่เคยสอนเรื่องกำไรขาดทุน ไม่เคยสอนเรื่องผลประโยชน์ทางการค้าและธุรกิจ ไม่เคยสอนเรื่องการต่อรองเพื่อความมั่งคั่ง ของตัวเองและพวกพ้อง ไม่เคยสอนเรื่องการต่อสู้แย่งชิงฉกฉวยโอกาสเพื่อกุมอำนาจทางการเมือง เน้นย้ำแต่เรื่องการเสียสละเพื่อประเทศชาติและประชาชน

ภาพจาก : The States Times
ทหารจึงมองที่ความมั่นคงและความสงบสุขของประเทศเป็นที่สุด ก้าวแรกของการเข้าสู่สังคมทหาร จึงเป็นการก้าวเข้าสู่สังคมของเกียรติยศและศักดิ์ศรี ทุกคนทราบดีว่า เป็นทหาร ไม่อาจทำให้คุณร่ำรวยได้เหมือนทำธุรกิจ เป็นทหาร ไม่ได้ทำให้คุณมีอำนาจทางเมืองได้ เหมือนเป็นนักการเมือง ดังนั้น หากนักการเมืองต้องการที่จะพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม โครงสร้างทางการเมืองต่างๆ หากไม่กระทบกับความมั่นคงของขาติแล้ว ทำให้เต็มที่เลยครับ ผมเชื่อว่าทหารไม่มายุ่งเกี่ยวขัดขวางเป็นอุปสรรคแน่นอน แต่จะเป็นเครื่องมือ กลไกที่เข็มแข็งช่วยเหลือนักการเมืองด้วยซ้ำไป ในทางตรงกันข้าม หากทหาร มีความรู้สึกว่า ความมั่นคงของชาติและความสงบสุขของประชาชนกำลังถูกบั่นทอน ทหารก็คงไม่นิ่งเฉยปล่อยให้ประเทศต้องพังย่อยยับเหมือนบ้างประเทศที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ดังนั้น หากนักการเมืองเข้าใจความรู้สึกและความคิดของทหารแล้ว พัฒนาบ้านเมืองตามแนวความคิดของท่านให้เต็มที่เลยครับ ไม่ต้องกลัวว่าทหารจะมาปฏิวัติหรอกครับ ทหารสมัยนี้ก็เป็นประชาธิปไตยเหมือนกันครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก Facebook : ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ