“อนุทิน” ลงพื้นที่ติดตามกรณีเครนก่อสร้างถล่มย่านดินแดง และพื้นที่ตึก สตง. แห่งใหม่ถล่มต่อเนื่อง เผยทุกฝ่ายยังคงค้นหาผู้รอดชีวิต ภายใน 72 ชั่วโมง
30 มี.ค. 68 เวลา 14.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์กรณีเครนก่อสร้างถล่มจากอาคารสูงในย่านดินแดง และติดตามการช่วยเหลือกรณีอาคาร สตง. แห่งใหม่ที่กำลังก่อสร้างถล่ม หลังได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว โดยมี น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ร่วมลงพื้นที่ด้วย
นายอนุทิน ได้กล่าวถึงความคืบหน้าของการรื้อถอนเครนก่อสร้างที่ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวบริเวณด่านเก็บเงินดินแดงว่า ขณะนี้ ได้ทำการตัดเครนไปได้ 35 เมตรจาก 45 เมตร และยังเหลือส่วนโคนที่ติดกับผนังอาคาร ซึ่งสิ่งที่ต้องทำตอนนี้ คือ การเอาลวดสลิงที่มีน้ำหนักมากไปยึดเครนไว้ก่อนเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่ร่วงหล่นลงมา หลังจากนั้นจะค่อย ๆ รื้อถอน ซึ่งจากการหารือกับผู้บริหาร กทพ. คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องได้มีข้อตกลงกันว่า จะทำการรื้อถอนช่วงหลังเที่ยงคืน และจะต้องมีการปิดการจราจร
“การเปิดใช้ทางพิเศษบริเวณด่านฯ ดินแดง อยู่ในดุลพินิจของผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ซึ่งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม ได้เน้นย้ำการทางพิเศษแห่งประเทศไทยให้คำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของประชาชนเป็ยสำคัญ โดยจะต้องประเมินความปลอดภัยอีกครั้งหนึ่ง และเราพยายามทำให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะให้เกิดความสะดวกที่สุดกับประชาชนผู้ใช้เส้นทาง” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า ในส่วนของจุดที่อาคาร สตง.แห่งใหม่ถล่ม ในขณะนี้การดำเนินการผ่านไป 48 ชั่วโมงแล้ว แต่เรายังเชื่อว่ายังมีผู้รอดชีวิต เพราะตามทฤษฎีตราบใดที่ยังไม่เกิน 72 ชั่วโมง ถือว่ายังมีผู้มีชีวิตอยู่ใต้ซากตึกที่ถล่ม ซึ่งนี่คือสาเหตุที่ต้องทำทุกขั้นตอนด้วยความระมัดระวัง เพราะหากรื้อโครงสร้างขนาดใหญ่ด้วยการใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ จะทำให้โครงสร้างด้านบนถล่มมากขึ้นจนอาจส่งผลกับผู้ที่ยังมีชีวิต และในขณะนี้เราได้รับการสนับสนุนวิศวกรผู้เชี่ยวชาญจากหลาย ๆ ประเทศ รวมทั้งท่านนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์และคณะ ที่เดินทางมาปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่นี้ตั้งแต่เกิดเหตุ ในฐานะวิศวกรจิตอาสา และเรายังคงเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาผู้รอดชีวิตอย่างเต็มกำลัง
“ในขั้นตอนต่อไป เมื่อเราทำการช่วยเหลือและลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตครบแล้ว จนมั่นใจว่าไม่มีผู้ใดอยู่ใต้ฐานแล้ว เราจึงจะเคลียร์หน้างานทั้งหมด ซึ่งไม่สามารถรอผู้รับเหมาไปเคลมประกันก่อนแล้วมาเคลียร์ได้ ตนจึงได้มอบหมายให้อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง พิจารณาหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นเหตุสาธารณภัย เพื่อให้เร่งเคลียร์หน้างาน” นายอนุทิน กล่าว