รมว. “ศุภมาส” ลงนาม MOU ไทย-เกาหลีใต้ ผนึกพลังสร้าง “นิวเคลียร์เพื่อสันติ” ยกระดับพลังงานสะอาด
วันที่ 21 มีนาคม 2568 รัฐบาลไทยและสาธารณรัฐเกาหลี เดินหน้าความร่วมมือด้านพลังงานนิวเคลียร์ในทางสันติ ผ่านการลงนามข้อตกลงระดับรัฐบาล ณ ห้องรับรองพระจอมเกล้า ชั้น 4 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยข้อตกลงนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์ ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และผลักดันให้ไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางพลังงานสะอาดของภูมิภาค สอดรับกับนโยบายของ นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. ที่มุ่งเน้นในด้านการวิจัยและนวัตกรรม และ Go Green พอเพียง ความยั่งยืน ความเป็นกลางทางคาร์บอน และพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
พิธีลงนามครั้งนี้มีบุคคลสำคัญจากทั้งสองประเทศเข้าร่วม โดยฝ่ายไทยนำโดย นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง (อว.) พร้อมด้วย ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง (อว.), นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ รรท. เลขาธิการ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) พร้อมคณะผู้บริหาร (ปส.) ผู้บริหารจากสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สทน.) และผู้บริหารสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ขณะที่ฝ่ายเกาหลีใต้ นำโดย H.E. Mr. Park Yong Min เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย พร้อมด้วยผู้บริหารจากสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ ประจำประเทศไทย
นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง (อว.) กล่าวว่า ข้อตกลงความร่วมมือครอบคลุมความร่วมมือในหลายมิติ ทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ การบริหารจัดการเชื้อเพลิงและกากกัมมันตรังสี รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีไอโซโทปกัมมันตรังสีเพื่อใช้ประโยชน์ในทางอุตสาหกรรม การแพทย์ และการเกษตร นอกจากนี้ยังเป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางรังสีและการส่งเสริมศักยภาพของบุคลากรไทยผ่านการฝึกอบรมและการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากเกาหลีใต้ ซึ่งถือเป็นหนึ่ง ในประเทศผู้นำด้านพลังงานนิวเคลียร์ของโลก
นางสาวศุภมาสฯ กล่าวต่อว่า การลงนามในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของไทยในการใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย อันจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงาน ลดการพึ่งพาการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ และผลักดันให้ไทยเดินหน้าสู่เป้าหมายพลังงานสะอาดในอนาคต การถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีจากเกาหลีใต้จะช่วยให้ไทยมีความพร้อมมากขึ้นในการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล ข้อตกลงฉบับนี้ไม่เพียงเป็นเครื่องยืนยันถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทยและเกาหลีใต้ แต่ยังถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่ช่วยให้ไทยก้าวสู่ยุคใหม่ของพลังงานนิวเคลียร์ในทางสันติ การเสริมสร้างศักยภาพของบุคลากรและการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้จะช่วยให้ไทยพร้อมเดินหน้าสู่การพัฒนาพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน และวางรากฐานสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศในระยะยาว