กรมการค้าภายในเข้มงวดตรวจสอบการรับซื้อและขนย้ายสินค้าเกษตร ป้องกันการเอาเปรียบเกษตรกร ล่าสุดจับกุมผู้กระทำผิด 2 ราย กรณีขนย้ายมันสำปะหลังผิดกฎหมายและรับซื้อข้าวเปลือกโดยคิดค่าชั่งน้ำหนักผิดกฎหมาย ดำเนินคดีตามกฎหมายสูงสุดจำคุก 7 ปี พร้อมเตือนผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากพบการฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีทันที
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตามที่อธิบดีกรมการค้าภายในได้สั่งการให้ติดตามตรวจสอบการรับซื้อ การนำเข้า และการขนย้ายสินค้าเกษตรอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะมันสำปะหลัง ข้าว ปาล์ม และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบเกษตรกร และกำกับดูแลด้านราคาสินค้าเกษตร ให้มีเสถียรภาพ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ให้กรมการค้าภายในกำกับดูแลราคาสินค้าเกษตร ให้มีเสถียรภาพ เกิดความเป็นธรรม เป็นการยกระดับรายได้ของเกษตรกรไทย จึงได้สั่งการให้สายตรวจเฉพาะกิจ กรมการค้าภายใน สนธิกำลังนายตรวจชั่งตวงวัด เจ้าหน้าที่กรมการค้าต่างประเทศ พาณิชย์จังหวัด ฝ่ายปกครองและฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ ปูพรมทุกพื้นที่ตรวจสอบกำกับดูแลอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง
ขณะนี้ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจกรมการค้าภายใน ว่า ได้มีการจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำความผิดแล้วจำนวน 2 ราย รายแรกจับกุมผู้ทำการขนย้ายหัวมันสำปะหลังสด จำนวน 30,500 กก. จากประเทศกัมพูชา เข้ามาทางช่องทางด่านพรมแดนช่องจอม พื้นที่ จ.สุรินทร์ โดยไม่มีหนังสืออนุญาตการขนย้ายหัวมันสำปะหลังสดและมันเส้น ดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืนประกาศ กกร. ฉบับที่ 28 พ.ศ. 2567 เรื่อง การควบคุมการขนย้ายหัวมันสำปะหลังสดและมันเส้น ส่วนรายที่สอง จับกุมท่าข้าวในพื้น จังหวัดพิจิตร รับซื้อข้าวเปลือกโดยคิดค่าชั่งน้ำหนักจากเกษตรกร ดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืนประกาศ กกร.ฉบับที่ 67 พ.ศ. 2567 เรื่องการกำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขการรับซื้อและการแสดงราคารับซื้อข้าวเปลือก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้กระทำความผิดทั้ง 2 รายส่งพนักงานสอบสวนในท้องที่ ที่เกิดเหตุดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยการกระทำดังกล่าวต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า “ขณะนี้กรมฯ ได้ส่งชุดสายตรวจเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์การรับซื้อสินค้าเกษตรในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะข้าวเปลือกในพื้นที่แหล่งเพาะปลูกสำคัญของภาคกลางซึ่งอยู่ในห้วงฤดูเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกนาปรัง เช่น จังหวัดอ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ เป็นต้น พบว่า ผู้ประกอบการมีการแสดงราคารับซื้อไว้อย่างชัดเจน ใช้เครื่องชั่งและเครื่องวัดความชื่นที่มีมาตรฐาน โดยในพื้นที่ราคารับซื้อข้าวเปลือกเจ้า ความชื้น 15% อยู่ที่ 8,000 – 8,500 บาท/ตัน จึงขอฝากเตือนถึงผู้ประกอบการรับซื้อ ผู้นำเข้าและขนย้ายสินค้าเกษตร ให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพราะกรมฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิดในทุกพื้นที่ หากพบการกระทำความผิดจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดกรณีลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตรหรือขนย้ายไม่เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต หรือไม่แสดงราคารับซื้อหรือแสดงไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือหากกดราคารับซื้อต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าเจ้าหน้าที่ตรวจพบจะดำเนินคดีอย่างเข้มงวด ทั้งนี้หากเกษตรกรรายใดไม่ได้รับความเป็นธรรมในการขายสินค้าเกษตร รวมทั้งพบเห็นหรือทราบเบาะแสการเอาเปรียบเกษตรกร สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ”