วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) นำโดย น.ส.อารีภักดิ์ เงินบำรุง รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นำคณะสื่อมวลชนจากส่วนกลาง ลงพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ ระหว่างวันที่ 27-28 ก.พ. 2568 เพื่อศึกษาดูงานการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ และสนับสนุนงานรณรงค์ประชาสัมพันธ์การสร้างการรับรู้การดำเนินงานด้านยาเสพติดของรัฐบาล โดยมี นายนิพนธ์ คนขยัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ในการขับเคลื่อนงานป่องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ พร้อมด้วยนายแพทย์ ภมร ดรุณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ พ.จ.อ.โสภณ สิทธิจันทร์ นายอำเภอโซ่พิสัย นายสุรพงษ์ ลักษวุธ รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลโซ่พิสัย ร่วมให้การต้อนรับคณะ เพื่อลงพื้นที่ครั้งนี้
วันนี้ คณะฯ ได้เข้าศึกษาดูงานการบำบัดฟื้นฟูผู้ใช้ยาเสพติด พื้นที่อำเภอโซ่พิสัย ซึ่งเป็นค่ายฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ประกอบด้วยผู้บำบัดชาย 196 คน ผู้บำบัดหญิง 30 คน โดยมีกระบวนการบำบัด 3 ระบบ คือ การล้างพิษโดยการใช้ยาจากจิตแพทย์ การเข้าค่ายมินิธัญญารักษ์ และการเข้าค่ายฟื้นฟู 120 วัน ซึ่งมีทั้งการฟื้นฟูสมอง และการฝึกอาชีพ อาทิ การจักสานแห การทำไม้กวาดจากดอกหญ้า การทำดอกไม้ประดับเข็มกลัด การทำเกษตร การทำลวดมัดติดกระเปาะยางพารา ซึ่งเป็นการเน้นไปที่อาชีพที่สามารถทำได้จริงภายในชุมชน เพื่อลดโอกาสการกลับไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติดได้อย่างยั่งยืน
รองเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวทิ้งท้ายว่าปัจจุบันจังหวัดบึงกาฬมีผู้เข้ารับการบำบัด จำนวนมาก และได้รับคำชื่นชมว่ามีผลงานการบำบัดผู้ป่วยยาเสพติดได้ผลมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย รองจากจังหวัดปทุมธานี
การลงทุนในการบำบัดรักษายาเสพติดนั้นคุ้มค่าหรือไม่ที่นี้จะเป็นที่ที่ทำให้เห็นว่ามีความคุ้มค่าอย่างไร เพราะที่นี้เป็นสถานบำบัดที่มีการจัดระบบบริการผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติดที่มีพฤติกรรมรุนแรงในชุมชนแบบครบวงจร โดยการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายอย่างยั่งยืนและเป็นศูนย์นาคาล้อมรักษ์โมเดล แห่งแรกของประเทศถือเป็นพื้นที่ต้นแบบในการดำเนินงานบำบัดรักษายาเสพติด ระดับประเทศ
นอกจากนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. ยังคงมีเงินสนับสนุนในการประกอบอาชีพสำหรับผู้ที่ผ่านการบำบัดรักษายาเสพติดแล้ว เพื่อตัดวงจรการกลับเข้าไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะ ผู้เสพ คือ ผู้ที่ก้าวพลาดที่เราทุกคนพร้อมจะหยิบยื่นโอกาสให้ร่วมกันสร้าง “พลังชุมชนเข้มแข็ง คืนคนมีคุณภาพสู่สังคม”